อนุโมทนา สาธุๆๆ



"ทำบุญและถวายสังฆทาน"

สองวันที่แล้วมีโอกาสได้นั่งรถไฟไปเที่ยวแม่กลอง เดินเล่นตลาดแม่กลองและไม่ลืมที่จะซื้อของถวายสังฆทาน

เช้าวันนี้ (29 ก.ค. 2555) ผมและลูกค้าทั้งหมดสี่คนออกเดินทางเพื่อจะไปเที่ยวช่องเขาขาด แต่ระหว่างทางเราจะแวะวัดเพื่อทำบุญและถวายสังฆทาน ผมจำได้ว่าระหว่างทางก่อนถึงช่องเขาขาดมีวัดอยู่วัดหนึ่งจำชื่อวัดไม่ได้หรอก นี้คือวัดเป้าหมายที่จะถวายสังฆทานวันนี้

ความจริงลูกค้ามีโปรแกรมต้องตักบาตรพระตอนเช้าที่อัมพวาเมื่อสองวันที่แล้ว แต่ผมคิดว่าเราน่าจะทำอะไรที่มันมากกว่าการใส่บาตรพระอย่างเดียว ผมจึงวางแผนล่วงหน้าด้วยการซื้อเครื่องสังฆทานมาสามชุดพร้อมซองใส่เงินทำบุญมาสี่ซองจากตลาดแม่กลอง คิดว่าเราจะแวะวัดที่ไหนสักแห่งแถวๆที่พัก (บูติค ราฟ)

ที่บ้านอัมพวาก็มีการการใส่บาตรพระตอนเช้า แต่ทางโรงแรมจะไปนิมนต์พระมาเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสใส่บาตรตอนเช้า แต่ผมก็มองข้ามไปว่าเราน่าจะทำอะไรที่มันทำให้ฝรั่งเขารุ้สึกได้ว่า"นี้คือการทำบุญตามวิถีชาวพุทธ"

เช้าวันนี้ฝนตกพรำๆ หมอกกระจายเป็นหย่อมๆตามยอดเขา น้ำที่ท่วมท่าเรือปากแซงเมื่อวานก็ลดลงตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน ยิ่งเดินทางออกจาที่พักคือบูติค ราฟเท่าไหร่หมอกตามขุนเขาก็เริ่มหนาตามากขึ้นเรื่อยๆ

รถตู้สีขาวเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดในวัด ฝนก็ยังตกลงมาไม่ขาดสาย

ผมเปิดประตูกระโดดลงจากรถ ขึ้นไปแจ้งให้หลวงพ่อที่อยู่ด้านบนทราบว่าจะมาถวายสังฆทาน ผมกลับมาเปิดประตูรถให้ลูกค้าลงและบอกว่า "ที่นี้แหละที่เราจะถวายสังฆทานกัน"

คนขับรถเปิดประตูหลังเพื่อนำเครื่องสังฆทานขึ้นไปไว้ด้านบนพร้อมเตรียมร่มให้ลูกค้า ผมเรียกลูกค้ามาด้านหลังรถพร้อมซองสี่ซอง หนึ่งในสี่ซองผมใส่เงินไป 100 บาท และก็บอกให้ลุกค้าร่วมทำบุญถวายพระโดยให้ใส่ซองละ 100 บาทเช่นกัน

หลวงพ่อเข้านั่งประจำที่หน้าพระประธานเป็นที่เรียบร้อย ผมและลูกค้าอีกสามคนลงนั่งข้างหน้าท่าน เมื่อทุกอย่างพร้อมพิธีถวายสังฆทานก็เริ่มต้นขึ้น





ผมบอกลูกค้าทั้งสามคนให้ประเคนสังฆทานให้หลวงพ่อ เริ่มประเคนที่ละคนโดยใช้มือสองมือในการประเคน หลังจากนั้งหลวงพ่อก็เริ่มสวดมนต์ ให้พรและปิดท้ายด้วยบทแผ่เมตตา ช่วงที่หลวงพ่อสวดบทแผ่เมตตาผมก็กรวดน้ำไปด้วย

หลังเสร็จสิ้นพิธีการทุกสิ่งอย่างก็ไม่ลืมที่จะถวายซองทำบุญที่เตรียมไว้และประเคนให้หลวงพ่อเช่นกัน

ทุกคนมีความสุข ได้บุญ ได้กุศลจากการถวายสังฆทานครั้งนี้อย่างถ้วนหน้า อีกทั้งได้มีโอกาสนั่งคุยกับหลวงพ่ออีกสักพักพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

หลวงพ่อที่แท้คือ"เจ้าอาวาส วัดพุเตย" บวชมายี่สิบกว่าพรรษา แต่มาอยู่ที่วัดพุเตยสิบห้าพรรษาแล้ว ท่านรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากที่ผมพาฝรั่งต่างชาติมาครั้งนี้ ท่านเป็นคนเอ่ยปากขอถ่ายรูปและจะเอามาใส่กรอบเพื่อแขวนโชว์ในวัดต่อไป หลวงพ่อเจ้าอาวาสใจดี ท่านชวนคุยโดยผมช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ลูกค้าฟัง

หลวงพ่อเจ้าอาวาสบอกว่า "ถ้าไม่ติดว่าฝนตกและมีพิธีบวชในโบสถ์จะให้ไปถวายสังฆทานภายในโบสถ์"

ได้เวลาอันเหมาะสมผมและลูกค้าก็กราบลาท่านเพื่อจะไปช่องเขาขาดต่อไป ก่อนที่รถจะพ้นออกจากรั้ววัด "พระใหม่"ที่เพิ่งจะบวชสดๆร้อนๆก็เดินออกมาจากโบสถ์ รถจอดอีกครั้งเพื่อให้ลูกค้าถ่ายรูปพระใหม่ แต่ฝนตกและกล้องลูกค้าก็ซูมได้ไม่เยอะ ผมก็เลยอาสาขอกล้องเพื่อไปถ่ายให้ใกล้ๆ

ผมเดินผ่านญาติและพ่อแม่พี่น้องเพื่อจะขออนุญาตถ่ายรูปพระใหม่ ทุกคนน่ารักและใจดีมาก รวมทั้งพระใหม่หยุดเดินเพื่อให้ผมถ่ายรูป สาธุๆๆๆ

ถ่ายรูปเสร็จผมหันหลังเดินกลับมาที่รถ พ่อและแม่ของ"พระใหม่"ก็เดินเข้ามาหาลูกค้าเพื่อมอบดอกไม้จากการทำพิธีบวชให้สามกำ รวมทั้งผมด้วยก็เป็นสี่กำ

ปิดประตู ขับรถออกมาจากวัด ทุกคนมีความสุขสำหรับการเริ่มต้นดีๆในเช้าวันนี้....สาธุๆๆ

ผมเอง
29 ก.ค. 2555 เวลา 22.14 น.
บูติค ราฟ แควน้อย กาญจนบุรี

(ภาพ) ครอบครัวสุขสันต์ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับท่านเจ้าอาวาส วัดพุเตย กาญจนบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น