วันจันทร์ีที่ 24 กันยายน พ.ศ.2555 
เขียนที่บ้าน

หนังสือmusic expressยุคนั้นถือว่าเป็นตำราในการฟังเพลงร๊อคยุคเริ่มต้นของข้าพเจ้า อ่านบทวิจาร์ณเพลง แนะนำเพลงแจ๋วๆ หลังจากนั้นค่อยไปเดินตามแผงเทปหน้ารามเพื่อเสาะหาดนตรีที่เราอยากได้ (ต้องบอกว่าม.รามคำแหงเปิดโลกทัศน์ข้าพเจ้าจริงๆ) 

เทปพีค๊อกสมัยนั้นราคาประมาณ 50 -60 บาท เป็นเพลงก๊อปจากเมืองนอกล้วนๆ เพราะเทปลิขสิทธิ์แพงมาราคาหลักร้อย ไม่มีตังค์ซื้อหรอก ต้องอาศัยเทปผีฟังนี่แหละ

ร๊อคเป็นปฐมบทในการเริ่มฟังเพลงจากเืมืองนอก (ต้องบอกว่ายุคนั้นเพลงไทยก็ก้อปดนตรีจากเมืืองนอกมาเหมือนกัน) ฟังคลื่นเพลงฝรั่งอย่างเช่นมาโนช พุฒตาล วาสนา วีระชาติผลี ดีเจวินิจ เลิศรัตนชัย คลื่นไนท์สปอต์ รายการทีวีตอนนั้นก็บันเทิงคดีรวมทั้งตัวหนังสือบันเทิงคดีด้วย

ยุคนั้นผมจะชื่นชอบ "ธเนศ วรากุลนุเคราะห์" มาก โดยเฉพาะอัลบั้ม"คนเขียนเพลงบรรเลงชีวิต" เป็นดนตรีแนวทดลองที่เท่ห์มากในสมัยนั้น เรียกว่า "Progressive Rock" ซึ่งผมจะฟังคู่กับวงPink Floyd (แต่ฟังไม่เยอะเท่าธเนศ)

ผมชอบ"ธเนศ"มากถึงขนาดเอาดนตรีของเขามาประกอบการแสดง ปัจจุบันผมก็ยังชื่นชอบ แม้กระทั้่งงานแต่งานผมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมปีที่แล้ว(2554)ผมก็ยังหยิบเอาเพลงของธเนศมาประกอบในงานเลย กร๊ากกกกกกก






ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นศิลปินคนเดียวที่ผมเคยดูคอนเสิร์ทเพียงครั้งเดียวในชีวิต(เท่าที่จำได้) ยุคนั้นมีจัดคอนเสิร์ทที่เดอะมอล์ รามคำแหง เป็นยุคที่เพลง"เรือ"กำลังดัง นั้นละครับ! ครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับผม

ช่วงนั้นเป็นการแสวงหาดนตรีแนวร๊อคที่ชืนชอบ ดนตรีร๊อคแนวทดลอง หลัีงจากนั้นค่อยแตกเป็นแนว world music ไซคีเดอริคร๊อค Progresssive สารพัดจริงๆ บ้าถึงขึ้นซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิวัฒนาการของเพลงร๊อคมาฟังเลยทีเดียว

พอถึงจุดหนึ่งก็เิริ่มขยับมาฟังแนวอื่นบ้างนอกจากร๊อค อาทิ แจส คลาสิค มาระยะหลังๆไม่น่าเกินสิบปีก็เริ่มที่จะรู้จักแนวดนตรีใหม่ๆ ตามอยู่พักหนึ่งแต่ก็เลิกไปในที่สุด ก็เป็นแนว chill out IBIZA sound แนวสารพัดDanceที่มันจะพัฒนาไปได้ทั้งTrance House Drums and Bass มันเป็นยุคของการเที่ยวข้าวสาร ยุคของบางกอก บาร์...ดีเจซี้ด นรเศรษฐ หมัดคง

จุดเริ่มต้นจากเพลงร๊อค...แต่มันพาผมมาไกลมากจริงๆ "ดนตรีหล่อเลี้ยงหัวใจ"

อะไรกันเนี่ย!! ฟังเพลงร๊อคยุค80ไม่ี่กี่เพลง มันพาผมมาไกลถึงขนาดนี้เลย ถึงขนาดต้องมาเีขียนอะไรมากมายขนาดนี้

Rock never Dies....Pat Love Never Dies

"เรื่องเล่าของเด็กน้อย ตอนเด็กเทพประทาน"


วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2555



ในที่สุดวันนี้ก็ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า "เด็กน้อย" ที่จะมาเกิดใหม่อีกคนบนโลกที่สับสนและซับซ้อนปีหน้าคือ "เพศชาย" คาดว่าคงจะคลอดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ พี่ๆน้องๆเตรียมรับขวัญหลานกันได้เลยนะฮะ

ทีแรกที่ค
ิดไว้คืออยากได้ลูกผู้หญิง คุณภรรยาก็คิดว่าเป็นผู้หญิงเช่นกันเพราะสังเกตุจากทรงของท้องและลักษณะการกิน อีกทั้งหลายเสี่ยงก็คาดเดากันว่าน่าจะเป็นผู้หญิง แต่สุดท้ายพลิกโผเข้าป้ายเป็นผู้ชาย

วันนี้ตอนที่ยืนอยู่ในห้องอัลตร้าซาวส์ คุณหมอก็ให้ดูเด็กน้อยผ่านเครื่องมือตรวจครรภ์ ตรวจดูสภาพความสมบูรณ์ของเด็ก ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ดูตั้งแต่หัว ตา จมูก ปาก กระดูกสันหลัง มือทั้งสองข้าง ขา ลำตัวและอวัยวะเพศ

"ผู้ชายคะ" เสียงคุณหมอพูดออกมาจากผ้าที่ปิดปากไว้

ฝ่ายบ้านผมมันผู้ชายเยอะก็อยากได้ผู้หญิง ฝ่ายบ้านคุณภรรยาผู้หญิงเยอะก็อยากได้ผู้ชาย สรุปคือก็สมใจกันทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น"หญิงหรือชาย"

ความจริงคุณภรรยาก็ฝันถึงเด็กผู้ชายมาสามครั้งแล้วนะ ก็คงไม่ผิดจากความฝันเท่าไหร่ ปัญหาต่อไปคือจะให้ชืออะไรดี ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น

ใจผมที่แรกถ้าเป็นผู้หญิงจะให้ชื่อว่า "ขิ่นฟ้า" เพราะผมกำลังอ่านนวนิยายผจญภัยอยู่พอดี เธอเป็นลูกสาวคนสวย เธอเป็นดอกไม้งามกลางหุบเขา เธอคือความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และเธอก็เป็นลูกสาวคนเดียวของผู้นำหมู่บ้านเขาลับ ในเทือกเขาดงพญาเย็นที่ยังไม่มีใครค้นพบ พ่อของเธอชื่อ"ขิ่นนู" อิอิ

บอกภรรยาว่าถ้าลูกสาวจะให้ชื่อ"ขิ่นฟ้า" คุณเธอรีบปฏิเสธเสียงแข๊งทันทีเพราะมีหวังโดนเรียกว่า"มะขิ่น"อย่างแน่นอน กร๊ากกกกๆๆๆ

เธอมีอีกชื่อเสนอเข้ามาทันทีคือ "Audley" ผมก็บอกว่า "งั้นชื่อเล่นก็เป็นอ็อด ชื่ออังกฤษเป็นAudley"

เธอให้เหตุผลประกอบว่า ช่่วงที่ปฏิสนธิเจ้าหนูน้อยคนนี้คาดว่าเป็นช่วงของงาน Audley Awards ซึงจัดขึ้นที่กรุงเทพฯพอดี ฮาเข้าไปอีก จะให้ชื่อเอเย่นต์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลยเหรอเนี่ย!







จากบทสนทนาที่เราสองคนคุยกันในรถระหว่างเดินทางออกจากรพ.รามคำแหงเพื่อกลับยังที่พัก เธอยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า "เจ้าหนู"คนนี้น่าจะปฏิสนธิในช่วง "ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน๖" วันนี้เป็นวันดีสะด้วย เพราะตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ "วันวิสาขบูชา" เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ณ อุทยานลุมพินีวัน แต่ของข้าพเจ้ากับภรรยาปฏิสนธิที่"ลุมพินีคอนโดสถาน" 
ผมก็คิดไปเองว่า คงเป็นวันที่เทพ เทวดา ที่สถิตย์อยู่บนสวรรค์เบื้องบนเลือกลงมาปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาของผม ก็ถือว่าเป็นสิ่งมงคล เป็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนคู่หนึ่ง

ติดตามต่อไปว่าเจ้าหนูที่เทพเทวาส่งมาเกิดจะได้ชื่อว่าอะไร อิอิ เล่าสู่กันฟังตามประสาของคน"ที่กำลังจะกลายเป็นพ่อ"ในอนาคตอันใกล้