"เรื่องเล่าจากสังขละฯ"



เช้านี้เริ่มต้นการออกผจญภัยเวลา 09.00 น. เป็นการผจญภัยและใช้เรือเป็นพาหนะหลัก ส่วนบริการทีใช้ก็เป็นของP.Guest House 

เริ่มออกผจญภัยเวลาเก้าโมงเช้าและกลับมาตอนประมาณบ่ายสอง กิจกรรมที่ทำวันนี้คือนั่งเรือหางยาวแบบไม่มีหลังคามาเที่ยวชมสะพานมอญ หลังจากนั้นซิ่งยาวเลยมาชมวัดใต้น้ำคือมันจมน้ำนะครับ หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนเขาแหลมเมื่อปีค.ศ.1987 สามารถจอดเรือแล้วขึ้นไปไหว้พระในอุโบสถได้ วันนี้เป็นวันเสาร์ก็มีน้องๆสาวมอญตัวเล็กๆน่ารักมาหารายได้พิเศษด้วยการขายดอกไม้ธูปเทียน ชุดละสิบบาทเท่านั้น ใครมาเที่ยวที่นี้อย่าลืมอุดหนุดน้องๆเขานะครับ น่ารักกันทุกคนเลย

ผมถามเด็กๆว่า"มีทั้งหมดกี่คนนับสิคะ"
เด็กๆ ตอบกลับมาหลังจากยืนขนาบผมด้านซ้ายและขวา" 13 คนคะ"
ผม "งั้นซื้อของทุกคนเลยนะ จะได้คนละสิบบาทเท่าๆกัน"
เด็กๆ ก็พยายามรวบรวมดอกไม้ให้ผม 13 กำ แต่ผมบอกว่า "ไหว้พระแค่กำเดียวก็พอจ๊ะ"

เดินเข้ามาในโบสถ์ก็เจอสองมัคคุเทศก์น้อย ทั้งสองเป็นพี่น้องกันคนน้องเรียนป.1 คนพี่เรียนป.4 (ถ้าจำไม่ผิด) ทั้งสองมัคคุเทศก์น้อยก็ช่วยกันบรรยายและเล่าประวัติความเป็นมา ชี้ให้ดูตรงนั้น ตรงนี้ และกำชับว่าหลังจากไหว้พระเสร็จแล้วให้เดินออกทางด้านหลัง ไอยะ! น่ารักจริงๆ ขยันหารายได้พิเศษช่วงวันหยุด ก่อนจากกันผมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและให้เงินค่าขนมไป 100 บาท

ซิ่งเรือหางยาวกันต่อมาที่แม่น้ำรันตี วันนี้กิจกรรมหลักช่วงเช้าคือขี่ช้างและล่องแพไม้ไผ่กันที่นี้ ส่งลูกค้าขึ้นขี่ช้างเป็นที่เรียบร้อย เมื่อทุกอย่างพร้อม คณะช้างไทยก็เดินข้ามม่น้ำรันตีหายเข้าไปในป่า ส่วนผมก็รับข้าวผัดหนึ่งถุงซึงเป็นอาหารกลางวันจากทีมงานพีเกสต์เฮาส์ คือผมไม่ได้ไปด้วยนะฮะ เลือกที่จะนั่งรออยู่ที่หมู่บ้านควาญช้าง ชาวกะเหรี่ยงดีกว่า ความจริงผมสามารถนั่งเรือหางยาวตามคณะไปได้เพื่อถ่ายรูปตอนที่ลูกค้าล่องแพ

ประมาณบ่ายโมงนิดๆ แพก็ล่องกลับมายังหมู่บ้านควาญช้าง พวกเรากระโดดขึนเรือหางยาว...ซิ่งน้ำกระจายกลับมาที่พีเกสต์เฮาส์เหมือนเดิม เป็นอันเสร็จการผจยภัยช่วงเช้า

ก่อนจะจากกันผมก็ทิปเด็กแว้นส์ไป 100 บาท
ทิปลูกพี่ใหญ่ที่คุมเรืองช้างและแพไป 200 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนนี้บริษัทไม่ค่อยนึกถึงหรอก แต่เราอยู่หน้างาน เห็นคนทำงานก็อดไม่ได้ที่จะให้สินน้ำใจตอบแทนเล็กๆน้อย

โอกาสหน้าเจอกันใหม่
ผมเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น