การเดินทาง..อีกครั้งหนึ่ง


วันที่ 31 มกราคม 2554

ณ ร้านกาแฟCoffee World สีลม

กลับจากเชียงใหม่มาหลายวันแล้ว ทริปนี้ทั้งทำงานและเที่ยวด้วยไปในตัวหมายถึงหลังจากเสร็จงานที่เชียงใหม่วันที่ 24 มกราคม ก็อยู่เที่ยวต่อที่เชียงใหม่อีกสามคืนสี่วัน โดยคราวนี้เปลี่ยนทำเลที่พักจากปกติจะพักแถวริมปิงหรือบริเวณไนท์บาร์ซ่ามาเป็นแถวนิมมานเหมินทร์ซอยห้า พักที่เกตส์เฮาส์ชื่อบ้านเสลาในราคาคืนละ 500 บาทห้องพัดลมแต่ห้องน้ำรวม

แต่ก่อนที่จะเลยเถิดไปไกลอยากจะขอสรุปทริปที่ผ่านมาก่อนเพื่อจะได้เห็นภาพรวมของการทำงานทั้งหมด

การทำงานชุดนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 – 24 มกราคม 2554 เป็นแขกของเอเย่นต์ Travel Indochina ทั้งหมดสองคน เดินทางด้วยรถตู้ Ventury พี่ประหยัดเป็นขับรถ ระยะทางทั้งสิ้นที่เริ่มจากกรุงเทพจนถึงเชียงใหม่ประมาณ 1,400 กิโลเมตร ที่พักทั้งสิ้นสี่แห่งคือ Jungle Rafe , Felix , KrungSri Riverอยุธยา และ Legendha สุโขทัย(พักที่นี้สองคืน)

ในเรื่องของWiFi โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ชนะเลิศ รองลงมาคือFelix กาญจน์ แต่ที่สุโขทัย Legdedha สัญญาณWiFiมีแต่เฉพาะทีบริเวณล๊อบบี้เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงในห้อง อีกอย่างสัญญาณก็บางเบาเหลือเกิน ส่วนRimPing Villageเชียงใหม่มีสัญญาณWiFiในห้อง

การทำงานชุดนี้ไม่มีอาหารมื้อเที่ยงรวมอยู่ในรายการนำเที่ยวก็ทำงานสนุกไปอีกแบบหนึ่ง ร้านอาหารที่เดินทางไปกินก็มี ร้านเจ สเตชั่น สถานีน้ำตกเมืองกาญจน์ ร้านผักหวาน หน้าวัดสุวรรณดาราม อยุธยยา ก๋วยเตี้ยวห้อยขาริมน่าน พิษณุโลก ร้านเรือนแพ ลำพูน ได้สัมผัสอาหารไทยในหลายบรรยากาศและหลายรูปแบบ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยากทำเวลาที่ต้องออกมาทำงานต่างจังหวัดเพราะได้ความรู้สึกสัมผัสกับบรรยากาศในพื้นที่นั้นๆอย่างแท้จริง

ที่เชียงใหม่ก่อนส่งแขกเข้าโรงแรมริมปิงก็ขับรถวันหนึ่งรอบเล็กๆเพื่อให้แขกได้เห็นสภาพแวดล้อมและสถานที่ตั้งต่างๆที่อยู่ใกล้โรงแรม โดยเริ่มจากเลี้ยวขวาตรงสะพานนวรัตน์ แล้วเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำปิงขับรถผ่านกาดวโรรส หลังจากนั้นขับผ่านไนท์บาร์ซ่าจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายอ้อมมาด้านหลังเพื่อข้ามแม่น้ำปิงตรงสะพานข่วงเหล็ก สุดท้ายจึงตรงเข้าโรงแรม

สิ่งที่ต้องรู้คือที่รร.ริมปิง วิลเลจ ถ้าเลี้ยวขวาจากหน้าโรงแรมสามารถลัดมาออกสะพานข่วงเหล็กเพื่อเดินข้ามแม่น้ำปิงและไปไนท์ได้ซึ่งที่ทางที่ใกล้ที่สุด แต่ได้รับคำแนะนำจาก”ไกด์พี่เบิ้ม”ว่า เส้นนี้ไม่แนะนำเพราะว่ากลางคืนมืดอาจจะเป็นอันตรายได้ อีกอย่างคือพวกจรจัด พวกดมกาวก็นอนกันอยู่แถวนี้ ไม่แนะนำด้วยประการทั้งปวง

นี้ก็เป็นภาพโดยรวมทั้งหมดของการทำงานชุดนี้ เสร็จงานก็แฮ้ปปี้เอ็นดี้ง...

บันทึกการเดินทาง

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

เช้าวันนี้ออกเดินทางออกจากรร.ไอเรสสิเด้นท์เวลาประมาณ 08.45 น. การจราจรไม่ติดขัด มาถึงร้านอาหารสวนทิพย์ประมาณเก้าโมงครึ่ง แต่เวลาที่จะเริ่มเรียนทำอาหารไทยประมาณสิบโมงครึงจึงปล่อยแขกให้เดินเล่น ถ่ายรูป นังพักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นการผ่อนคลายก่อนการเริ่มเรียน

เวลาประมาณสิบโมง เชฟหมูก็เดินมาตามเพราะได้เวลาเรียนทำอาหารแล้ว ผมก็เดินไปบอกแขกสองคนที่นั่งพักผ่อนอยู่ริ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

รายการอาหารที่ต้องทำวันนี้มีสองรายการคือแพนงเนื้อและไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ การสอนจะเริ่มโดยเชฟจะเป็นผู้เริ่มทำและอธิบายตั้งแต่ต้นจบจบ หลังจากนั้นแขกจะต้องลงมือทำเอง

เมนูแรก ”แพนงเนื้อ” สิ่งแรกที่ต้องทำคือเครื่องแกง โดยใช้พริกแห้งที่แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณหกชั่วโมงหรือค้างคืน นำมาผ่าเอาเม็ดข้างในออกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อสะดวกในการทำ
แล้วตามด้วยเกลือประมาณหนึ่งหยิบมือ ตำไปได้สักพักก็เพิ่มผิวมะกรูด กะปิ กะเทียม หอม ข่าซอย รากผักชี แล้วก็ตำจนละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียว หลังจากนั้นตั้งเตาเปิดแก๊สใส่น้ำมันพืชลงไปนิดหน่อยและตามด้วยพริกแกงที่ตำ คนพริกแกงจนเข้าเป็นเนื้อเดียวจึงเติมนำกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊ป แล้วก็คนต่อจนนำกะทิแตกมันแล้วจึงนำเนื้อที่หั่นเตรียมไว้ใส่ลงในกะทะคนจนเนื้อสุกแล้วจึงปลุกรสและปิดท้ายด้วยถั่วลิสงบด สุดท้ายตักใส่จ่าน ตบแต่งนิดหน่อยด้วยใบมะกรูดสอยและพริกแดงสอยพร้อมราดน้ำกะทิ พร้อมเสริฟพร้อมข้าวร้อนๆ

เมนูที่สอง “ไก่ผัดเม็ดมะม่วง” เริ่มด้วยเทน้ำมันพึชลงกะทะ ระหว่างที่รอให้น้ำมันเดือดก็หั่นไก่เป็นลูกเต๋าแล้วนำใส่ถ้วยใบใหญ่ เสร็จแล้วตอกไข่ลงไปแต่เอาเฉพาะไข่ขาวแล้วคลุกให้เข้ากับเนื้อไก่ หลังจากนั้นใส่แป้งข้าวโพดตามลงไปอีก คลุกเคล้าให้ทั่ว สาเหตุที่ใส่แป้งข้าวโพดเพราะเมื่อทอดแล้วเนื้อไก่ด้านนอกจะกรอบแต่ด้านในนุ่ม ระหว่างที่รอให้น้ำมันเดืออดก็หั่นพริกแห้งหยาบๆ หั่นต้นหอมและหอมใหญ่เป็นลูกเต๋าเตรียมไว้ เมื่อน้ำมันเดือดพลุ่งพล่านก็นำไก่ที่เตรียมไว้ใส่ลงกะทะทันที ทอดจนเหลืองหลังจากนั้นใส่พริกและหอมใหญ่ที่เตรียมเอาไว้ลงไปทอดกับไก่ด้วย เสร็จแล้วเทน้ำมันทิ้งและนำไก่พักไว้ก่อน น ขั้นตอนต่อไปคือนำแห้วที่เตรียมไว้ใส่ลงในกะทะคนให้เหลืองแล้วตามด้วยน้ำมันหอย น้ำพริกเผา พริกไทย น้ำปลา ผัดให้เข้ากัน สุดท้ายจึงนำไก่ที่ทอดพร้อมหอมใหญ่และพริกลงไปผัดรวมกันอีกครั้ง คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วก็ตักใส่จาน...พร้อมเสริฟ

เบ๊ดเสร็จแล้วทำสองรายการใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมงได้ทานมื้อเที่ยงเมื่อตอนเที่ยงตรงพอดี แต่เมนูอาหารเที่ยงทางสวนทิพย์เสริฟผัดผักรวมและต้มยำกุ้งถ้วยเล็ก(คนละถ้วย)เพิ่มให้อีก ตามด้วยผลไม้ ชาหรือกาแฟ ส่วนของที่ระลึกเป็นทองม้วนและข้าวเต้นน้ำแตงโม

ออกจากร้านอาหารสวนทิพย์ ปากเกร็ด ประมาณบ่ายโมง เราเดินทางกันต่อปลายทางคือท่าเรือรีโซเทลเพื่อนั่งเรือหางยาวไปยังที่พักคือJungle Raft โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณสามชั่วโมงหรือเป็นระยะทางประมาณ209กิโลเมตร
ประมาณ 16.00 น. มาถึงยังที่พักและแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย มาเจอกันอีกทีตอนทานอาหารค่ำเวลา 19.30 พร้อมกับดูระบำมอญเวลา 21.00 น. หลังจากนั้นแยกย้ายกันเข้านอน

ปล.เมนูอาหารค่ำวันนี้คือบวบผัดไข่ ผัดผักรวมไก่ ปีกไก่ล่างตุ๋น แกงหมูสัปปะรด

ราตรีสวัสดิ์...เขียน ณ แพล่า@งจังเกิ้ลราฟ ห้องเบอร์ 29 เวลา 21.10 น. คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงด้วยจ๊ะ