บันทึกฐานยุตโต:ว่าด้วยเรื่องศีลหรือวินัยของสงฆ์ตอนที่๑


วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๒
บันทึกฐานยุตโต : พระวินัยของสงฆ์
เจริญพร
ช่วงนี้อากาศดีฝนตกตอนเย็นทุกวันเลยแต่อาตมายังโชคดีเพราะจนถึง ณ ขณะนี้ที่ยังไม่ป่วย ไม่เป็นไข้ ธาตุทั้งสี่ในร่างกายยังมีความสมดุลดีอยุ่
จากบันทึกฉบับก่อนหน้านี้รุ้สึกว่าจะแต่เรื่องชีวิตของอาตมาเป็นส่วนใหญ่ อาตมาคิดว่าฉบับนี้จะขยับมาเขียนเรื่องพระวินัยของพระกันสักหน่อยเพื่อโยมจะได้มีความรุ้พอสังเขปและสามารถถ่ายทอดต่อไปได้ สมดั่งที่เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี
โดยส่วนมากเมื่อเสร็จพิธีบวชและออกจากใจโบสถ์แล้วก็เป็นการฉลองพระใหม่ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน วันนี้เรามาดูสิว่ามีอะไรบ้างที่นอกเหนือจากสิ่งที่เรารู้
สิ่งหนึ่งที่พระใหม่หรือนวกะจะต้องรู้ทันทีหลังจากการอุปสมบทเสร็จเรียกว่า อนุศาสน์ ๘ ซึงเป็นคำสอนที่พระอุปัชฌาย์พึงบอกแก่ภิกษุ เพื่อให้ภิกษุทราบว่าอะไรคือข้อที่ควรปฏิบัติและข้อห้าม ซึ่งประกอบด้วย
๑.นิสสัย ๔( ควรปฏิบัติ)
- เที่ยวบิณฑบาต , นุ่งห่มผ้าบังสุกุล , อยู่โคนไม้ และ ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า
๒.อกรณียกิจ ๔ ( ไม่ควรประพฤติ )
- เสพกามเมถุน , ลักของเขา , ฆ่ามนุษย์ และ พูดอวดคุณวิเศษที่ตนเองไม่มี
หลังจากนั้นแล้วก็ต้องมีการอธิษฐานและพินทุจีวร สบง และสังฆาฏิ สำหรับการทำพินทุนั้นมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วเพื่อที่จะทำให้ผ้ามีตำหนิและเป็นการทำเครื่องหมายเพื่อบอกว่าใครเป็นเจ้าของไตรจีวร โดยการทำพินทุนั้นจะทำที่มุมล่างด้านในของผ้าแต่ละผืนโดยทำเป็นวงกลมเล๊กๆสามวงพร้อมเขียนชื่อเต็มหรือชื่อย่อกำกับ รวมทั้งเครื่องหมายบวกและลบ
จีวรที่พระบวชจำพรรษาจะมีสองชุดคือชุดที่ห่มทำพิธีอุปสมบทในโบสถ์เรียกว่าชุดครองต้องทำเครื่องหมายบวกข้างเครื่องหมายพินทุและจะต้องใช้ชุดครองทุกครั้งถ้าเป็นไปได้เมื่อลงโบสถ์หรือทำสังฆกรรมของพระ
สำหรับอีกหนึ่งชุดเรียกว่าชุดอาศัย ใช้สำหรับออกเที่ยวบิณฑบาต หรือเดินทาง หรือลงศาลา ในกิจการใดๆที่ไม่เกี่ยวกับกับลงโบสถ์หรือสังฆกรรมของพระ
สำหรับจีวรในสมัยพุทธกาลเป็นสิ่งที่หายากต้องเก็บเอามาจากเศษผ้าที่เขาไม่ใช้แล้วและจึงนำมาเย็บเป็นจีวร โดยลักษณะของจีวรที่พระห่มอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นแบบเดียวกับสมัยพุทธกาล ผู้ออกแบบคือพระสารีบุตรอัครสาวกด้านขวาของพระพุทธเจ้า ลักษณะของจีวรพระสารีบุตรท่านเอาแบบมาจากแปลงนานั้นเอง นอกจากนี้จีวรที่ใช้กันในสมัยพุทธกาลเมื่อไม่สามารถใช้ห่มได้แล้วก็นำมาใช้เป็นผ้าขี้ริ้วหรือเอาไปผสมกับดินเหนียว ขี้วัว ขี้ควาย สร้างเป็นบ้านต่อไป คือใช้สอยกันอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว อาตมาก็ว่าจะทำอย่างนั้นเช่นกัน
สำหรับเรื่องพระวินัยของสงฆ์ที่มีมาในพระปาติโมกข์ ๒๒๗ ข้อนั้น สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
๑. ปาราชิก ๔ สิกขาบท
๒. สังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท
๓. อนิยต ๒ สิกขาบท
๔. นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ สิกขาบท
๕. ปาจิตตีย์ ๙๒ สิกขาบท
๖. ปาฏิเทสนียะ ๔ สิกขาบท
๗. เสขิยวัตร ๗๕ สิกขาบท
๘. อธิกรณสมถะ ๗ อย่าง
รวมทั้งหมด ๒๒๗ สิกขาบท
ฉบับนี้อาตมาคิดว่าคงเขียนไม่พอแล้วละโยม เอาเป็นว่าคงต้องเขียนต่อในฉบับหน้าน่าจะดีกว่า ยังไงขอให้โยมติดตามตอนต่อไปนะ อาตมารับรองเลยว่าโยมจะได้รับความรู้และสามารถถ่ายทอดต่อไปให้แก่บุคคลทั่วไป ยังความเจริญสืบเนื่องต่อไปของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

สาธุ
๑๒ กันยายน ๒๕๕๒ ห้องนวกะเบอร์ ๔ วัดสุวรรณประสิทธ์

บันทึกฐานยุตโต : หนึ่งวันก่อนเวลา ๐๙.๐๙ น. วันที่ ๙ เดือน๙ ปีค.ศ. ๐๙


๘ กันยายน ๒๕๕๒
เจริญพร
เย็นวันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกหนักและทำให้เป็นข้ออ้างของอาตมาและหลวงพี่ท่านอื่นๆที่จะไม่ลงไปเรียน ฝนเริ่มตกตั้งแต่ก่อนหนึ่งทุ่มนิดๆ จนถึงขณะนี้ก็ยังตกแต่ไม่หนัก คืนนี้อากาศก็เย็นสบายเหมือนติดแอร์อีกแล้ว
วันนี้ช่วงเช้าเป็นวันที่ดีอีกหนึ่งวันเพราะอาตมาได้มีโอกาสได้ลงโบสถ์นั่งเป็นพระอันดับในพิธีอุปสมบทพระบวชใหม่อีกหนึ่งครั้งสรุปแล้วนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้วนะโยม เรื่องพระอันดับอาตมาได้รับแจ้งตั้งแต่เมื่อวานตอนหัวค่ำหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จ เช้าวันนี้จึงต้องลงไปโบสถ์ในเวลา ๐๗.๓๐ น. ก่อนพิธีเริ่มพระทุกรูปต้องทำการปลงอาบัติก่อนเพื่อให้พิธีอุปสมบทบริสุทธิ์และสมบูรณ์ เมื่อเช้าอาตมาก็กลับมาจากการบิณฑบาตก่อนเจ็ดโมงเช้านิดหน่อยแต่มาเสียเวลาในการรอมอเตอร์ไซด์มาส่งของ วันนี้เป็นครั้งแรกที่รถมาส่งของเสียเวลาทำให้แผนที่วางไว้ว่าจะฉันเช้าอย่างรวดเร็วเป็นอันยกเลิกเพราะเวลาไม่ได้แล้ว อาตมาก็ฝากบอกท่านปุ่นและท่านสำรวยให้เสียบปลั๊กต้มน้ำร้อนให้หน่อยเพื่อจะฉันกาแฟร้อน ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆมื้อเช้าของวันนี้คือการแฟร้อนแก้วเดียว กว่าจะเสร็จพิธีอุปสมบทก็เก้าโมงเช้าถ้าฉันเช้าเวลานี้เพลมีหวังฉันไมได้แน่ เพราะฉะนั้นอาตมาเลือกที่จะรอเวลาเพื่อฉันเพล ระหว่างนั้นอาตมาก็ล้างบาตร สรงน้ำและเก็บตัวในห้องเพื่อท่องบทสวดมนต์ ตั้งใจเอาไว้ว่าในวันพระที่จะมาถึงในวันเสาร์ที่ ๑๒ กันยายนนี้อาตมาจะต้องท่องให้ได้ สักประมาณเกือบสิบโมงครึ่งเณรน้อยกัปตันก็มาเคาะประตูห้องเพื่อลงไปฉันเพลฉลองพระใหม่ ณ ห้องเรียนด้านล่าง นิมนต์พระทั้งหมดเก้ารูปด้วยกันถือว่านี้เป็นกิจนิมนต์ครั้งทีสองตั้งแต่บวชมา มนต์ที่ซ้อมและท่องในห้องก็ได้นำมาทดสอบได้เลยแต่ผลการทดสอบยังไม่น่าพอใจต้องฝึกอีกสักหน่อย อาหารที่โยมถวายประกอบด้วยแกงเขียวหวานไก่ ลาบหมู(ของโปรดเลยโยม) และบร็อคโคลลี่กับคะน้าผัดหมูกรอบ ของหวานเป็นผลไม้คือฝรั่ง แน่นอนอาตมาฉันลาบมากเป็นพิเศษ ฉันจนลาบหมดจานไม่เหลือเลยล่ะของเขาอร่อยจริงๆ กลับขึนมาบนกุฏิยังพอมีเวลาเหลืออาตมาก็จัดการขนมหวานที่โยมใส่บาตรมาให้เมื่อเช้า เมื่อเสร็จกิจทุกอย่างก็กลับเข้ามาพักผ่อนในห้องเปิดบทสวดมนต์ฟังไปด้วยท่องไปด้วย ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลับไปตอนไหน มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็อีกประมาณยี่สิบนาทีบ่ายสองอาตมาก็รีบสรงน้ำลงไปเรียนทันที พร้อมทั้งหอบเอาการบ้านวิชากระทู้ธรรมที่ยังไม่ได้ส่งลงไปทำด้วย การบ้านที่ทำมาเสร็จเมื่อตอนหัวค่ำก่อนฝนตกตั้งใจจะส่งสักหน่อย แต่เจ้ากรรมฝนดันตกทำให้ไม่ได้ลงไปเรียนและไม่ได้ส่งต้องรอไปอีกหนึ่งวัน ๒๒.๐๐ น.

วันที่ ๙ เดือน ๙ ค.ศ. ๐๙
เจริญพร
วันนี้เป็นน่าจะเป็นวันที่เลขสวยแห่งปีและคงจะเป็นกระแสเฉพาะในเอเชียบ้านเราท่านั้น เช้านี้ญาติโยมก็ออกมาตักบาตรกันหนาตาพอสมควรอันนี้ไม่ได้สังเกตเฉพาะอาตมาเท่านั้นหลวงพี่ท่านอื่นๆที่อยุ่บนตึกเดียวกันก็มีความรุ้สึกเช่นนั้นเหมือนกันอันเนื่องมาจากของที่โยมตักบาตร นอกจากนี้ทางวัดยังได้รับอานิสงค์จากวันเลขสวยนี้ด้วย ปกติระหว่างสัปดาห์งานกิจนิมนต์แทบจะไม่ค่อยมี จะมีมากเฉพาะเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น แต่วันนี้พระที่วัดออกกิจนิมนต์กันเยอะมากเฉพาะชั้นสี่ฝั่งที่อาตมาจำวัดก็ไปกันเกือบหมดเหลืออยุ่แค่สองรูปเท่านั้น เที่ยงนี้ฉันเพลรูปเดียวหน้าห้องอีกแล้ว ยังไงก็อย่าคิดทำดีเฉพาะวันนี้วันเดียวเท่านั้นละ วันดีๆมีทุกวันน่ะโยมสามารถทำได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุด
สาธุ ๑๐.๔๗
ปล. ข้อควรปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระที่คฤหัสถ์ควรทราบ
๑๖.บุรุษ สตรี เมื่อเลยเวลาเพลแล้ว คือตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงวันใหม่ อย่านำอาหารไปประเคนพระ หากเป้นของที่เก็บค้างคืนได้ ไม่บูด ไม่เสีย เช่น ข้าวสาร ปลาดิบ เนื้อดิบ อาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋อง เป็นต้น ก็มอบไว้แก่ไวยาจักกรของท่านได้ ( โภชนวรรค ข้อ ๗)
๑๗.บุรุษ สตรี ถ้าพระที่มิใช่ญาติและตนไม่ได้ปวารณาไว้ ไม่เป็นไข้ ขอโภชนะอันประณีต คือข้าวสุกที่ระคนด้วยเนยใส เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ปลา เนื้อ นมสด นมส้ม แม้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ควรถวาย แต่ถ้าขอเพื่อผู้เป็นไข้ควรถวายโดยแท้ ( โภชนวรรค ข้อ ๙ )
๑๘.บุรุษ สตรี เมื่อประเคนอาหารหรือยาเป็นต้น ทุกอย่างที่พระจะต้องกลืนกิน ( ฉัน ) ต้องประเคนให้ถูกวิธีดังนี้
ก. ภาชนะหรือห่อของนั้น ไม่ใหญ่หรือหนักจนเกินไป ยกคนเดียวได้อย่างพอดี
ข. เข้าอยู่ในหัตถบาสของพระ ห่างจากพระประมาณ ๑ ศอก เป็นส่วนสุดของสิ่งของหรือของบุคคลผุ้ประเคน
ค. น้อมกายถวายด้วยความเคารพ
ง. กิริยาที่ถวายนั้น ถวายด้วยมือหรือของที่เนื่องด้วยมือ เช่น ช้อน – ภาชนะก็ได้
จ. พระรับด้วยมือ หรือของที่เนื่องด้วยมือ เช่น บาตร – ผ้า ก็ได้ ( โภชนวรรค ข้อ ๑๐ )
๑๙.สตรีไม่มีบุรุษผุ้รุ้เดียงสาอยู่เป็นเพื่อน ต้องไม่นั่ง ไม่นอน ไม่ยืน ไม่เดิน ในห้องพระ แม้จะมีสตรีหลายคนก็ไม่ได้ ( อเจลวรรค ข้อ ๔ )
๒๐.สตรีต้องไม่นั่ง ไม่นอนในที่แจ้งกับพระ หนึ่งต่อหนึ่ง ถ้าสตรีหลายคนนั่งได้ แต่การนอนนั่นไม่ควร แม้การยืน การเดินกับพระ หนึ่งต่อหนึ่ง ด้วยอาการซ่อนเร้นก็ไม่ควร ( อเจลวรรค ข้อ ๕ )

บันทึกฐานยุตโต:เก็บเอามาเล่า


๗ กันยายน ๒๕๕๒
เจริญพร
ในที่สุดบ่ายวันนี้อาตมาก็ทำกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยนั้นคือการเก็งข้อสอบวิชาพุทธประวัติจำนวน ๑๐๐ ข้อ หลังจากที่ไม่ได้ทำมาหลายวัน คิดว่าพรุ่งนี้คงจะนำไปส่งท่านเปรมและท่านพั้งค์ได้ ข้อสอบนี้หลังจากที่ผ่านตกตบแต่งแล้วจะถูกนำไปลงในเว็บไซด์ของทางวัดต่อไป นี้เป็นโครงการที่ท่านเปรมและท่านพั้งค์ประสงค์จะทำสำหรับการจำพรรษาปีนี้ ซึ่งในตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการจัดทำ อาตมาก็พอจะมีส่วนช่วยนิดหน่อยจากการทำแนวข้อสอบนี้แหละ
สิ่งที่ท่านทั้งสองจะทำต่อไปและกำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมคือนิมนต์พระอาจารย์ บุญเกิดอัดเสียงบทสวดมนต์โดยใช้ห้องอัดเสียงของทางวัด อย่างเพิ่งสงสัยว่าทำไมวัดมีห้องอัดเสียงด้วย อันที่จริงทางวัดมีสถานีวิทยุชุมชนก็ใช้ห้องจัดรายการนั้นแหละทำการอัดเสียงได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกที
วันก่อนหลังจากที่ทำวัตรเย็นเสร็จอาตมากำลังจะเดินขึ้นตึก พระอาจารย์นัฐพงษ์ก็เดินเข้ามาคุยด้วยและพระอาจารย์มาทาบทามอาตมาให้เป็นประธานในการจัดสร้างพระประธาน โดยพระอาจารย์นัฐมีโครงการจะสร้างวิหารแบบจตุรมุขโดยมีหลังคาวิหารเป็นแบบโดมซึงสถานที่จัดสร้างนั้นอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ณ ขณะนี้วิหารกำลังอยุ่ในช่วงของการออกแบบและติดต่อสถาปนิก เกือบลืมบอกไป!อาตมาก็ตกลงกับพระอาจารย์นัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการเป็นประธานในการสร้างพระประธาน แล้วจะนำมาแจ้งให้ญาติโยมทราบต่อไปตามลำดับนะ
เวลาก็ทำหน้าที่ของมันตามปกติเผลอแป๊บเดียวเข้าวันที่ ๗ กันยายนแล้ว เดือนหน้าหลังออกพรรษาก็ต้องเตรียมตัวออกเดินทางไปต่างจังหวัด สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมคือเต้นท์อันนี้มีแล้วเพราะโยมน้องชายซื้อเอาไว้นานแล้ว วันก่อนก็รบกวนโยมป๋อน้องชายให้ช่วยซื้อถุงนอนให้หน่อย อันที่จริงถุงนอนก็มีแล้วน่ะแต่มันเก่าแล้วและขนาดก็ใหญ่มากคงเอาใส่ย่ามไปลำบาก เผอิญเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามีงานท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิตโยมน้องก็จัดการซื้อมาให้เรียบร้อย อีกอย่างที่ต้องซื้อคืออาสนะ ที่อาตมาคิดเอาไว้ก่อนออกพรรษาหรือประมาณหลังวันที่ ๑ ตุลาคมคงจะต้องขนของเกือบจะทั้งหมดใสกุฏิกลับเอาไปไว้ที่บ้านเพราะจะไม่อยุ่หลายวันกลัวว่าถ้าทิ้งเอาไว้ในห้องกลับมาอาจจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ขนาดนมที่แช่น้ำแข็งหน้าห้องยังเคยเคยหายเลยโยมเพราะหลังเลิกเรียนพวกเด็กนักเรียนบางคนชอบขึ้นมาข้างบนเพื่อขออาหารหรือนม แต่ดันมาเครื่องดื่มเพราะสะงั้น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเด็กคนเดิมที่เคยขโมยกลับเข้ามาที่ตึกเพราะปีนข้ามมาจากตึกเณร อาตมาเห็นตอนกำลังปีนก็ทักว่าวันนี้จะมาขโมยอะไรอีกล่ะ เด็กคนนั้นก็เดินรอบระเบียงชั้นสี่กลับมาเจออาตมาอีก อาตมาก็พูดไปว่าไง! วันนี้ขโมยได้อะไรไปบ้างล่ะ เด็กมันคงอายอ่ะน่ะก็เลยปีนกลับไปตึกเณร อยู่วัดใช่ว่าจะปลอดภัยน่ะต้องคอยระวังทรัพย์สินเหมือนกัน
วันนี้ช่วงบ่ายโมงเสียงระฆังดังเป็นสัญญาณว่าต้องลงไปเรียนอาตมาก็สรงน้ำห่มลงไปเรียนตอนบ่ายโมงครึ่ง ปกติวิชานี้อาตมาจะลงไปเรียนตอนบ่ายสองโมง แต่วันนี้ก่อนบ่ายไปยืนคุยหน้าห้องหลวงพี่โกวิทหลังจากที่ทำเก็งข้อสอบเสร็จ หลวงพี่โกวิทพูดว่า “จะรีบลงไปเอาทรัพย์ ลงไปก่อนได้ทรัพย์ก่อน ลงไปทีหลังจะได้ทรัพย์น้อย อีกทั้งเรียนกับอาจารย์ดีกว่าอ่านหนังสือเอง” อาตมาได้ยินดังนั้นก็คิดตามคำพูดไปด้วย เออก็จริงอย่างที่หลวงพี่โกวิทพูดนั้นแหละจึงเป็นสาเหตุให้ลงไปเรียนไวและคงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรบวิชาพุทธสุภาษิตกระทู้ธรรมค่ำนี้อาตมาโดดเรียน มีความรู้สึกไม่อยากเรียนขึ้นมาดื้อๆ รู้สึกไม่ค่อยมีสมาธิสังเกตอาการตัวเองจากการลงทำวัตรเย็นวันนี้เพราะว่าสวดมนต์ไม่ค่อยมีสมาธิ สวดข้ามบ้าง สวดหลงบรรทัดบ้าง ก็เลยทำให้ไม่อยากเรียน ที่ไม่เรียนไม่ใช่มีอาตมาคนเดียวนะยังมีท่านโตน ท่านสำรวย ท่านตึ้ง ท่านอาร์มอีกด้วย แต่พอทุกคนลงไปหมดอาตมาก็ปิดไฟหน้าห้อง มันมืด มันเงียบดี อาตามาก็หลบเข้ามาในห้องปิดไฟนั่งสมาธิเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมาสักหน่อย ก็รู้สึกดีขึ้น คืนนี้ก่อนนอนคงจะนั่งสมาธิอีกสักรอบ ช่วงนี้ก่อนนอนไม่ค่อยได้สวดมนต์เลย แย่จัง!

สาธุ
๒๐.๒๙ นวกะห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา วัดสุวรรณประสิทธิ์

ปล. ข้อควรปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระและคฤหัสถ์ที่ควรทราบ (ต่อ)
๑๑.บุรุษ เมื่อนอนในที่มุง ที่บัง อันเดียวกับพระครบ ๓ คืนแล้ว ต้องเว้นเสีย ๑ คืน ต่อไปจึงนอนได้อีก
( มุสาวาทวรรค ข้อ ๕)
๑๒.สตรี ห้ามนอนในที่มุง ที่บัง อันเดียวกับพระแม้ในคืนแรก ( มุสาวาทวรรค ข้อ ๖)
๑๓.บุรุษ สตรี ถ้าพระใช้ให้ขุดดินเหนียวล้วนหรือดินร่วนล้วน ไม่ควรขุด แต่ถ้าพระแสดงความประสงค์ว่า ต้องการหลุมหรือคูเป็นต้น หรือว่าต้องการขุดดินให้สูงเท่านั้นเท่านี้เป็นต้น ก็ควรจัดการให้ตามประสงค์
( มุสาวาทวรรรค ข้อที่ ๑๐ )
๑๔.บุรุษ สตรี ถ้าพระใช้ให้ตัดต้นไม้ หรือดายหญ้าที่เกิดอยู่กับดิน หรือให้รื้อถอนผักหญ้าต่างๆ ที่เกิดอยู่ใน น้ำไม่ควร ตัด – ดาย – รื้อถอน แต่ถ้าพระบอกว่า เราต้องการไม้ – หญ้า – ผัก หรือว่าเราต้องการทำความสะอาดในที่ซึ่งเกะกะรุงรัง ด้วยต้นไม้หรือผักหญ้าดังนี้เป็นต้น จึงทำให้ ( ภูตคามวรรค ข้อ ๑ )
๑๕.บุรุษ สตรี นิมนต์พระให้ฉันอาหารอย่าออกชื่อโภชนะ ๕ คือ ข้าวสุก ขนมสด ขนมแห้ง ปลา เนื้อ ควรใช้กัปปิยโวหารหรือคำพูดที่สมควร เช่น พูดว่า “ ขอนิมนต์ฉันเช้า ” หรือว่า “ ขอนิมนต์ฉันเพล ” และต้องบอกวัน เวลา สถานที่ให้ชัดเจน ทั้งบอกให้พระทราบด้วยว่าให้ไปกันเอง หรือจะมารับ อนึ่งการที่นิมนต์พระให้ฉันนั้นปรารภเรื่องอะไรก็ควรบอกให้ทราบด้วย ( โภชนวรรค ข้อ ๒ )

บันทึกฐานยุตโต: ชั้นสี่ตึกวิปัสสนา



๔ กันยายน ๒๕๕๒
เจริญพร
สำหรับตึกที่อาตมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสุวรรณประสิทธิ์เรียกว่าตึกวิปัสสนา พระนวกะทั้งหมดอยุ่บนชึ้นสูงสุดของตึกคือชั้นสี่และมีสองฝั่งคือฝั่งหนึ่งด้านหน้าของระเบียงจะเป็นเขตวัดสามารถมองเห็นหลังคาโบสถ์ชัดเจน (อาตมาอยู่ฝั่งนี้) อีกฝั่งจะอยุ่ติดกำแพงวัดมองออกไปก็เป็นบ้านของญาติโยมที่อยู่บริเวณนี้รวมทั้งเห็นโรงเรียน
บนชั้นนี้มีห้องน้ำทั้งสิ้น ๘ ห้องและอ่างล้างหน้าในจำนวนที่เท่ากัน ด้านหลังห้องน้ำเป็นที่ใช้ซักผ้าซึ่งบริเวณนี้จะอยู่ติดกับตึกของเณร
ฝั่งที่อาตมาอยู่นั้นนับจากห้องน้ำมาเป็นห้องเบอร์หนึ่งของท่านตึ้ง ถัดมาเป็นของท่านปุ่น ท่านโกวิท อาตมา ท่านก้อย ห้องเก็บของ ห้องพระอาจารย์นัฐพงศ์ ห้องเก็บของอีกหนึ่งห้อง ท่านสำรวย ท่านโตน หลวงพ่อแดง ท่านเว และท่านเป้
ท่านปุ่นแรกเริ่มเดิมทีตั้งใจจะบวชเพียงเดือนเดียว แต่ต่อมาเปลี่ยนใจเป็นอยู่ตลอดพรรษา
ท่านเป้ที่จริงมีกำหนดจะต้องสึกกลางเดือนสิงหาคม แต่ต่อมาก็เปลี่ยนใจอยุ่ตลอดพรรษาเช่นกัน
หลวงพ่อแดงอยู่ยาวจนถึงเมษายนปีหน้า
หลวงพี่โกวิทยังไม่ทราบว่าจะสึกเมื่อไหร่ อีกทั้งหลวงพ่อคือพ่อของหลวงพี่โกวิทก็บวชอยู่ที่นี้เช่นกัน หลวงพี่ท่านก็คอยดูแลท่านเป็นบางโอกาสเมื่อเจ็บป่วย
ท่านสำรวย มาจากอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร มาบวชไกลถึงที่นี้เพราะพระอาจารย์ท่านสำรวยส่งมา อีกทั้งท่านสำรวยไม่ใช่คนไทยแต่เป็นกะเหรี่ยง เมื่อช่วงหัวค่ำผู้ใหญ่บ้านโทรมาให้เดินทางกลับบ้านด่วนเพราะบัตรประชาชนที่รอคอยมานานได้แล้ว
สำหรับอีกฝั่งนั้นอาตมาไม่ค่อยได้ไปคลุกคลีมากเท่าไหร่ แต่ก็มีพูดคุยกันบ้างนิดหน่อย เริ่มจากห้องน้ำก็เป็นห้องของหลวงพี่ติงลี่ ห้องท่านตั้ม ห้องหลวงพ่อสมภพ ห้องท่านตุ๋ย ห้องหลวงพี่เล๊ก ห้องท่านอาร์ม ห้องท่านแอมป์ และห้องหลวงพี่ต้อม
ในส่วนของตึกเณรชั้นสามมีพระนวกะจำพรรษาอยู่สามรุปคือท่านเปรม ท่านพั้งค์และท่านสันต์ ส่วนสามเณรทั้งหมดอยู่ชั้นสี่ในความดูแลของพระอาจารย์หมู ประกอบด้วยสามเณรกัปตัน สามเณรอี๋ สามเณรม่อน สามเณรเบียร์ สามเณรโย สามเณรตั้ว และสามเณรเต้ย
หน้าตึกที่อาตมาจำพรรษาใต้ต้นมะขามมีรังแตน วันก่อนอาตมากำลังกวาดห้องเรียนด้านนอกอยุ่ เห็นพวกเณรวิ่งหนีอะไรกันก็ตะโกนถาม ปรากฏว่าเณรโยเอาอะไรสักอย่างปารังแตนดีนะที่ไม่โดน ไม่งั้นคงได้วิ่งหนีกันสนุก ยังมีรังผึ้งอีกอยู่ใต้ต้นโพธิ์ซึ่งอาตมาก็เคยโดยผึ้งต่อยมาครั้งหนึ่งแล้วตอนกวาดลาดวัด รังแตนอีกรังอยู่ใต้บันไดที่จะเดินขึ้นชั้นสี่วันก่อนอาตมาก็เพิ่งโดนต่อยมาหนึงทีขณะที่กำลังเดินลงมากวาดลานวัดด้านล่าน จู่ๆมีแตนจากไหนไม่รุ้บินมาต่อยระหว่างนิ้วก้อยและนิ้วนางมือขวา...ความรู้สึกที่โดนต่อยบอกไม่ถูกเลยมันร้อนและแสบมาก อาตมาก็ไม่ได้ตีมันนะ ปล่อยให้มันต่อยให้เสร็จแล้วมันก็บินจากไปทิ้งแต่ความเจ็บปวดเอาไว้ อาตมาต้องไปขอยาหม่องที่สำนักงานทาแก้ปวด ก่อนหน้านี้ท่านอาร์มก็โดนแตนรังนี้ต่อยมาสองวันติดเลยที่นิ้วเท้าและฝาเท้า ท่านปุ่นก็โดนต่อยที่หน้าแข้งมาแล้วเหมือนกัน
รังสุดท้ายเป็นรังแตนอยู่บนคาคบไม้ใกล้ประตูทางเข้าโบสถ์ สามวันก่อนตอนมืดพระอาจารย์สายัณห์และสามเณรไปจัดการทำลายรังเรียบร้อยแต่สามเณรโดนต่อยไปที่หน้าผากหนึงที ส่วนพระอาจารย์สายัณห์โดนต่อยไปสี่ทีสีตัว ได้ข่าวว่าวันรุ่งขึ้นเป็นไข้ออกไปบิณฑบาตไม่ได้ไปหนึ่งวัน

สาธุ
๒๐.๒๖ วัดสุวรรณประสิทธิ์ ห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา

ปล. ข้อปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระและคฤหัสถ์ที่ควรทราบ

๖. บุรุษ สตรี ผู้เป็นพ่อค้า แม่ค้า ไม่ควรขายของแก่พระภิกษุ หือสามเณรผู้ที่จับต้องเงิน ( ธนบัตร เหรียญบาท เป็นต้น ) มาซื้อด้วยตนเอง ( โกสิยวรรค ข้อ ๙ )
๗. บุรุษ สตรี ไม่ควรเอาสิ่งของของตนแลกกับสิ่งของของพระ ของเณร ( โกสิยวรรค ข้อ ๑๐ )
๘. บุรุษ สตรี ไม่ควรเอาผ้าอาบน้ำฝนถวายพระก่อนเข้าพรรษามากกว่า ๑ เดือน แม้พระของก็ไม่ต้องถวาย เว้นไว้แต่พระที่เป็นญาติ และพระที่ตนปวารณาไว้ ( ปัตตวรรค ข้อ ๔)
๙. บุรุษ สตรี เมื่อเตรียมสิ่งของจะถวายแก่สงฆ์ (ไม่เฉพาะบุคคล) ถ้าพระแนะนำให้ถวายเฉพาะตัวท่านเองหรือให้ถวายเฉพาะพระรูปใดๆก้ตาม ไม่ต้องถวายตามคำแนะนำนั้น ( ปัตตวรรค ข้อ ๑๐ – สหธรรมมิกวรรคข้อ ๑๒)
๑๐. บุรุษ สตรี เมื่อเรียนธรรมกับพระ อย่าออกเสียงบทพระธรรมพร้อมกับพระ ( มุสาวาทวรรค ข้อที่ ๔ )

บันทึกฐานยุตโต:นึกชื่อเรื่องไม่ออก


๔ กันยายน ๒๕๕๒
เจริญพร
ช่วงหลังนี้อาตมาไม่ค่อยว่าง เวลามีก็เฉพาะช่วงเช้าก่อนเพลและช่วงค่ำหลังสามทุ่มไปแล้วทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเขียนบันทึกสักเท่าไหร่ อันที่จริงก็มีหลายเรื่องจะเขียนเหมือนกันแต่กลัวว่าญาติโยมจะเบื่อเสียก่อน
วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนสิบ หรือวันที่ ๔ กันยายน ครบรอบสองเดือนที่อาตมาบวชนี่ก็เหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะออกพรรษาแล้วเวลาช่างเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ วันนี้ก็ลงโบสถ์ไปตอนบ่ายสองโมงเพื่อทำวัตรเย็นแล้วก็ต่อด้วยการฟังปาติโมกข์หลังจากนั้นท่านเจ้าอาวาสก็มีเรื่องพูดคุยนิดหน่อยในโบสถ์ก่อนที่แยกย้ายกันกลับกุฏิ มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือท่านเจ้าอาวาสท่านเล่าให้ฟังว่าปีนี้พระทั้งประเทศมีจำนวนประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ รูป และเณรประมาณ ๖๐,๐๐๐ รูป คาดหมายว่าในอีกสี่สิบปีข้างหน้าจะไม่มีพระในประเทศไทย วัดก็จะกลายเป็นอนุสรณ์สถานไป สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะจะมีคนบวชเรียนน้อยลงและระยะเวลาในการบวชก็จะสั้นลงประมาณ ๑๕ วันถึง ๑ เดือน เพราะฉะนั้นพระนวกะที่บวชปีนี้ควรจะตั้งใจเรียนและปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพระธรรมวินัยและการทำวัตรเช้า – เย็น
นอกจากนี้ในโบสถ์พระอาจารย์กาญจน์ยังแจ้งเพิ่มเติมว่าช่วงกลางเดือนกันยายนจะมีการติววิชาที่เรียนในหลักสุตรนักธรรมตรี , วันที่ ๒๔ – ๒๕ กันยายนจะมีการสอบซ้อมที่วัดนวลจันทร์ และระหว่างวันที่ ๒๘ ก.ย. – ๑ ต.ค. สอบสนามจริงที่วัดลาดพร้าว , วันที่ ๔ ต.ค. และวันที่ ๕ ต.ค. ตักบาตรเทโว หมายความว่าตั้งแต่กลางเดือนไปอาตมาคิวเรียนเน้นมากเลยโยม
ขณะที่เขียนบันทึกฝนก็กำลังตกอยู่ด้านนอก คืนนี้อากาศเย็นสบายอีกแล้วโยม ฝนตกทีไรอากาศในห้องเหมือนติดแอร์เลย เช้าทีไรไม่ค่อยอยากตื่นเลยแต่ก็ต้องตื่นเพราะการบิณฑบาตเป็นกิจของสงฆ์ ตื่นสายสุดที่ทำมาคือตีห้า
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเงินที่โยมถวายใส่บาตรอาตมาก็ทำบุญให้ต่อโดยจ่ายเป็นค่าน้ำ – ค่าไฟของวัด อีกส่วนอาตมาเก็บสะสมเงินสองวันพระรวมเงินโยมที่บ้านสมทบทุนมาด้วยเป็นจำนวน ๒,๕๐๐ บาท ใส่ซองร่วมถวายผ้าป่าที่จะนำไปสร้างพระพุทธชินราชจำลอง ณ จังหวัดพัทลุง ช่วงตลอดเดือนกันยายนอาตมาก็อนุโมทนาเงินญาติเพื่อเก็บเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อเข้าปริวาสต่างจังหวัดเป็นเวลาสิบวัน อนึ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอาตมาก็ขอเงินที่บ้านมาใช้ ๑,๐๐๐ บาท สรุปก็คือว่าเงินที่อาตมาได้จากการบิณฑบาตหรือกิจอื่นที่เกี่ยวเนืองอาตมาไม่ได้นำมาใช้เลยแต่ทำบุญต่อให้ญาติโยม
เมื่อสักครู่ขณะที่กำลังนั่งเขียนบันทึกท่านตึ้งห้องเบอร์หนึ่งก็มาเคาะประตูเรียกเพราะว่าท่านสำรวยห้องเบอร์เก้ามีกิจด่วนต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชรคืนนี้ เนื่องด้วยวินัยถ้าพระรูปไหนมีกิจต้องเดินทางและไปค้างคืนต่างจังหวัดต้องนิมนต์พระอีกสี่รูปเพื่อมาฟังท่านสำรวยสวดมนต์คำสัตตาหะสามรอบ เมื่อสวดเสร็จต้องแจ้งให้ทราบว่าจะเดินทางไปไหนและไปกี่วันแต่ต้องไม่เกินเจ็ดวันไม่งั้นขาดพรรษา แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย หวังว่าท่านสำรวยคงทันรถทัวร์รอบสามทุ่ม

สาธุ
๑๙.๓๙ วัดสุวรรณประสิทธิ์ ห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา

ปล.ข้อควรปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระและคฤหัสถ์ที่ควรทราบ
เพื่อที่จะให้คฤหัสถ์ บุรุษ สตรี ทั้งหลายช่วยกันรักษาภิกษุสงฆ์ให้บริสุทธิ์เป็นนาบุญอย่างดี จะได้เพิ่มปริมาณผลแห่งพืชบุญที่บริจาคหว่านลงไปให้มากยิ่งๆขึ้น จึงได้รวบรวมพระวินัยบางข้อที่คฤหัสถ์ทั้งบุรุษและสตรีควรทราบนำมาเรียบเรียงเป็นข้องๆพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติสำหรับคฤหัสถ์ ดังต่อไปนี้
๑. สุภาพสตรี อย่าถูกต้องภิกษุสามเณร ( สังฆาทิเสส ข้อ ๒ )
๒. สุภาพบุรุษ หรือสุภาพสตรี ไม่ควรวานให้พระชักสื่อชายหญิงให้เป็นสามีภรรยากัน แม้ชั่วครั้งชั่วคราว( สังฆาทิเสส ข้อ ๕ )
๓. สุภาพสตรี ไม่มีบุรุษผู้รู้เดียงสาไปด้วย ไม่ควรเข้าไปหาพระในที่ลับตาหรือลับหู เพราะอาจจะทำให้พระถูกโจทด้วยอาบัติต่างๆ หรือเป็นทางให้เกิดความเสียหายมาก ( อนิยต ข้อ ๑-๒ )
๔. สุภาพบุรุษหรือสตรี เมื่อศรัทธาจะถวายเงินทองแก่พระภิกษุหรือสามาเณาต้องให้ให้แก่ไวยาจักร ( ผุ้ที่รับทำกิจของท่าน) และแจ้งให้ท่านทราบ อย่ามองให้ในมือหรือในย่าม หรือในบาตรของท่าน เป็นต้น( จีวรวรรรค ข้อ ๑๐ – โกสิยวรรค ข้อ ๘)
๕. บุรุษผู้เป็นไวยาจักร เมื่อรับทองของพระรูปให้ไว้เท่าไรต้องจัดสิ่งของที่พระต้องการถวายพระรูปนั้น ใน ราคาเท่าเงินทางที่ตนรับไว้นั้น ในเวลาที่ท่านขอ ถ้าเงินทองมากพระขอของน้อย ก็จ่ายเท่าที่ท่านต้องการ เก็บส่วน ที่เหลือไว้จ่ายคราวต่อไป ( จีวรวรรค ข้อ ๑๐ )

บันทึกฐานยุตโต:กลับไปเยี่ยมบ้านครั้งแรก



๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๒

เจริญพรญาติโยมทั้งหลาย
อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนสิงหาคมอีกแล้ว เหลือเดือนหน้าอีกเดือนเดียวก็จะออกพรรษาช่วงเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมาช่างมาไปอย่างรวดเร๊วจริงๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาตมาก็จำพรรษาอยู่วัดเกือบจะตลอดเวลา ก็มีบ้างนิดหน่อยที่ออกไปข้างนอกอาทิ ไปวัดมหาธาตุท่าพระจันทร์สองครั้ง ไปวัดพระแก้วหนึ่งครั้ง ไปขนไม้ต่างๆกลับมาวัด ล่าสุดที่ผ่านมาก็กลับไปเยี่ยมบ้าน
มีโยมหลายคนถามอาตมาว่าสบายดีไหม บวชแล้วเป็นอย่างไรบ้าง คำตอบคืออาตมาสุขกายสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ไม่มีเรื่องต้องกังวล ไม่มีเรื่องต้องให้คิดมาก บวชเรียนช่วงเข้าพรรษาได้ความรู้ติดตัวเยอะพอสมควร ได้รู้ ได้ปฏิบัติ ในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน คิดว่าหลังจากสึกแล้วคงได้นำความรุ้ที่ได้จากการบวชเรียนนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันต่อไปและแน่นอนที่สุดก็จะคำสิ่งที่ได้ไปเผยแพร่ต่อไป
ช่วงสามวันนี้คือนับตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ และวันพระพรุ่งนี้งดเรียนสามวันเนื่องด้วยมีนักเรียนมาเข้าค่ายธรรมมะที่วัด จะเริ่มเรียนวิชาใหม่สองวิชาสุดท้ายในวันที่ ๒๙ สิงหาคมนี้ หยุดเมื่อวานวันแรกก็ได้เวลาซักผ้าเช็ดตัว สะบงและจีวร ช่วงบ่ายก็จำวัดไปนิดหน่อยแต่อากาศร้อนอบอ้าวมากตื่นขึ้นมาก็ลงไปช่วยท่านปุ่นและหลวงพ่อแดงทำบอร์ดพระนวกะประจำปี ๒๕๕๒ มาเสร็จตอนสองทุ่ม โชดดีที่เมื่อคืนฝนตกอากาศเย็นจำวัดสบายเหมือนติดแอร์ สำหรับวันนี้หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จอาตมาก็ซักจีวรและสะบงอีกหนึ่งชุด หลังจากนั้นก็ถูพื้นระเบียงชั้นสี่เพราะว่าเมื่อคืนฝนตกลงมาตอนดึกมีน้ำขังนิดหน่อยแล้วก็อาบน้ำนอนพักผ่อนอ่านหนังสือพิมพ์ในห้อง เวลา๑๑.๐๐ เป็นเวลาฉันเพล หลังเพลอาตมาก็เข้ามานอนอ่านหนังสือพิมพ์ต่อแล้วก็ผล่อยหลับไปตอนบ่ายโมงกว่า ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนบ่ายสองโมงครึ่งก็นอนอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ พอสี่โมงเย็นก็ได้เวลาขึ้นไปทำความสะอาดศาลาสำหรับวันพระพรุ่งนี้
วันเสาร์ที่ผ่านมาอาตมากลับไปเยี่ยมบ้านเป็นครั้งแรกตั้งแต่บวชเรียนมา อันที่จริงอาตมาตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมวันอาทิตย์แต่เผอิญว่าโยมพี่ชายขับรถจากสระบุรีพร้อมโยมพี่สะใภ้และหลานสองคนกลับมาบ้านวันศุกร์และจะเดินทางกลับวันอาทิตย์ อีกทั้งโยมน้องชายเดินทางไปดูงานและค้างต่างจังหวัดกลับเย็นวันอาทิตย์ เพราะฉะนั้นก็ต้องเปลี่ยนแผน โยมพี่ชายมารับอาตมาที่วัดตอน ๐๙.๓๐ จากวัดไปบ้านใช้เวลาเดินทางไม่นานไม่เกินสิบนาทีเท่านั้นแหละโยม เข้าไปในบ้านอาตมาก็กราบพระก่อน หลังจากนั้นก็นั่งคุยกับโยมแม่ โยมพี่ชายและหลานคนโต อีกสักพักโยมน้าตุ๋ยน้องสาวของโยมแม่ก็มาถึงและก็ช่วยกันเตรียมอาหารอยุ่หลังบ้าน อาตมาก็ใช้เวลาช่วงนั้นเดินไปเยี่ยมโยมน้าเพียรสามีของโยมน้าปุกน้องสาวของโยมแม่ซึงไม่สบายนอนพักอยุ่บนชั้นสอง บ้านของโยมน้าปุกก็ไม่ไกลอยุ่ตรงกันข้ามแค่นั้นเอง โยมน้าเพียรไม่สบายในวันโกนและวันบวชไม่มีโอกาสไปร่วมงานอาตมาก็ใช้โอกาสนี่แหละไปเยี่ยมโยมสักหน่อย นั่งพุดคุยสักพักก็ขอตัวกลับเพื่อให้โยมน้าเพียรพักผ่อน หลังจากฉันเพลที่โยมแม่ โยมน้าปุก โยมน้าตุ๋ย โยมป้อ โยมยายและโยมพี่ชายพร้อมทั้งครอบครัวถวายเสร็จอาตมาก็ให้พร โดยเริ่มจากบทกรวดน้ำและตามด้วยพรอีกสองบทเป็นอันเสร็จพิธี โยมก็ไปทานอาหารเที่ยงกันต่อ อาตมาก็ใช้เวลาช่วงนั้นสวดมนต์หน้าพระนิดหน่อยเพื่อเป็นสิริมงคลกับบ้าน ก่อนจะกลับอาตมาก็แวะไปเยี่ยมโยมตาซึงพักอยุ่ที่บ้านโยมน้าเล๊กน้องสาวของโยมแม่อีกคน บ้านโยมน้าเล็กก็ไม่ไกลหรอกอยู่หลังบ้านเท่านั้นเอง โยมตาสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงต้องมีคนคอยช่วยพยุงตลอดเวลาเมื่อจะเดินหรือนั่งเพราะฉะนั้นโยมตาจึงไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานวันโกนและวันบวชของอาตมา ตอนไปถึงโยมตายังหลับต้องให้เด็กที่บ้านปลุกและพยุงขึ้นมา ตื่นขึ้นมาก็ยังสลึมสลือแต่พอเห็นผ้าเหลืองก็ยกมือไหว้ โยมน้าปลุกต้องคอยตะโกนข้างหูโยมตาเพื่อบอกว่าอาตมาเป็นใครเนื่องจากโยมตาอายุมากร่างกายไม่แข็งแรง หูตึง ความจำต่างๆเริ่มเลือนหายไป อาตมาอยุ่คุยนิดหน่อยแล้วก็ลากลับวัด ก่อนกลับโยมตาก็ยกมือไหว้อีกครั้ง
แน่นอนโยมพี่ชายขับรถมาส่งทีวัด อาตมายังพอมีเวลาที่จะสรงน้ำและห่มจีวรลงไปเรียนตอนบ่ายต่อไป เรียนไปก็หาวไปง่วงไปเกือบจะหลับเหมือนกัน อาตมาคิดจะกลับไปเยี่ยมบ้านอีกสักครั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้

สาธุ
๒๑.๐๙ นวกะห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา วัดสุวรรณประสิทธิ์