เก็บเล็กผสมน้อยโขงเจียม ตอนจิบกาแฟลาว สาดเบียร์ดำ

ภาพที่1 ใบอนุญาตผ่านแดนของข้าพเจ้า
ภาพที่2 บรรยากาศหน้าด่านตม.ช่องเม๊ก มาคราวที่แล้วร้านค้าเต็มไปหมด มารอบนี้ค่อยดูสบายตาและเป็นระเบียบมากหน่อย
ภาพที่3 เส้นทางดำดินหลังผ่านตม.ไทยไปโผล่ที่ประเทศลาว
ภาพที่4 ร้านประสกโชค เป็นจุดนัดพบระหว่างไกด์ลาวและไกด์ไทย(คือผม)สำหรับการรับหรือส่งลูกค้าข้ามพรมแดน

หายจากอาการแน่นท้องแล้ว ก็ได้เวลา"เล่าเรื่อง...เก็บเล็กผสมน้อยโขงเจียม"

ทริปนี้มานอนโขงเจียมเป็นเวลาสามคืน เมื่อวานพาลูกค้านั่งเรือล่องแม่น้ำโขงและพาไปเดินเล่นที่อุทยานฯผาแต้ม

เช้าวันนี้ตามโปรแกรมคือว่าง พักผ่อนตามอัทยาศัย ทีแรกลูกค้าสนในจะไปเที่ยวปากเซภายในหนึ่งวัน ผมก็หาเบอร์ให้และให้ลูกค้าติดต่อคุยกันเอง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไม่ไปเลือกพักผ่อนที่โรงแรม

สายวันนี้กระผมใช้เวลา"ว่าง"ให้เป็นประโยชน์ด้วยการไปเที่ยวช่องเม็ก ข้ามพรมแดนไปนั่งเล่นที่ด่านวังเต่า ประเทศลาว

ไม่ได้ใช้พาสปอร์ต! ทำเพียงบัตรผ่านแดนเท่านั้น ส่วนสถานที่ทำบัตรผ่านแดนก็อยู่ก่อนถึงหน้าด่านทางด้านซ้ายมือ ถ้าขับมาไม่เร็วก็จะเป็นป้าย"อีก 800 เมตรถึงจุดทำบ้ตรผ่านแดน"

มีเพียงบัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้นก็สามารถข้ามพรมแดนได้แล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อคนเพียง 36 บาท แบ่งเป็น
1.ค่าธรรมเนียม 30 บาท
2.ค่าถ่ายเอกสารและติดบาร์โค๊ด 6 บาท
ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย ปัญหาต่อไปคือที่จอดรถสามารถเลือกจอดได้ริมถนนหรือตามสถานที่ที่เขารับฝากรถ จุดที่ทำบัตรผ่านแดนก็มีบริการที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ผมไม่ได้ถามนะฮะ

ที่ด่านช่องเม๊กมี 711 เพียงหนึ่งร้านและมีแบงค์ออมสินสำหรับคนที่ต้องการเงินเพิ่ม หรือบริเวณตม.ก็มีธ.นาคารกรุงไทยและเอทีเอ็มของธ.กรุงไทยและเอทีเอ็มธ.กรุงเทพ อีกยี่ห้อที่เห็นคือธ.ไทยพาณิชย์


หลังจากที่ผ่านตม.ฝั่งไทยก็เดินดำดินมาโผล่ฝั่งประเทศลาว ยืนเอกสารให้จนท.ลาวแต่ไม่มีค่าเหยียบแผ่นดิน...Welcome to Lao

ผมก็ไม่พลาดที่จะไปนั่งจิบ"กาแฟลาว...ดาวค๊อฟฟี่"สั่งเอสเพรสโซ่ร้อนไปหนึ่งแก้ว ราคา 50 บาท นั่งเพลินๆอากาศดีจริงๆ

"เบียร์ดำลาว"ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับคอเบียร์ทุกท่าน แต่ราคาอาจสูงนิดหน่อยคือ 45 บาท ตามร้านค้าทั่วไปในลาวขายเพียง 30 บาท แต่ที่ประเทศไทยผมเห็นวางขายที่ท๊อป สีลมคอมเพล๊กซ์ ราคาขวดล่ะ 65 บาท สิ้นปีนี้ตั้งใจจะซื้อสักลังไปฉลองปีใหม่กับที่บ้าน อิอิ

ก่อนกลับด้วยความบังเอิญ ไปสอบถามร้านค้าว่า"เบียร์ซื้อกลับไทยได้กี่ขวด" ได้คำตอบว่า"คนละสองแพ๊คจ๊ะ"

หนึงแพ๊คมี 6 ขวด ราคา 260 บาท สองแพ๊คก็หนึ่งโหลพอดี แต่เพื่อความสบายใจผมซื้อกลับมาเพียงหนึ่งแพ๊คเท่านั้น!

ง่ายๆสบายๆนะครับ ถ้าใครจะมาเที่ยวที่ด่านวังเต่า เชิญเลย บรรยากาศดี สาวลาวน่ารัก เบียร์อร่อย กาแฟหอมชื่นใจ

PattyFromTheBlock

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2555
ณ ห้อง 2111 โรงแรมทอแสง โขงเจียม อุบลราชธานี

"เก็บเล็กผสมน้อย...โขงเจียม"

ถนนหนทางจากด่านช่องเม๊กมุ่งหน้าอ.พิบูลมังสาหารกำลังเร่งสร้างเป็นสี่เลนเพื่อรองรับAEC 

จากแยกโขงเจียมเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าด่านช่องเม๊ก ถนนกำลังขยายจากสองเลนเป็นสี่เลน ถ้าเสร็จเมื่อไหร่คงสะดวกในการเดินทางมากขึ้น 

ส่วนอีกทางถ้าเลี้ยวขวามุ่งหน้าอ.สิรินธรจากแยกโขงเจียมถนนเป็นสี่เลนหมดแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อยก็เรียบร้อย!


ภาพบน : ถนนจากแยกโขงเจียมมุ่งหน้าอ.สิรินธร
ภาพล่าง : ถนนจากแยกโขงเจียมมุ่งหน้าด่านช่องเม๊ก กำลังเร่งก่อสร้าง


แต่เนื่องด้วยถนนเส้นนี้รถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ใช้บริการเยอะทำให้ถนนทรุดและพังเร็ว สังเกตง่ายๆถนนอ.วารินชำราบ มุ่งหน้าอ.พิบูลมังสาหาร ถนนเลนซ้ายสุดแทบจะวิ่งไม่ได้เลยเพราะถนนทรุดและพัง รถแทบทุกคันวิ่งเลนขวาตลอด ไม่รู้เมื่อไหร่จะปรับปรุงสักทีเพราะมีสภาพอย่างนี้มาหลายปีแล้วนะจ๊ะ!

ส่วนอีกเส้นทางจากแยกอ.พิบูลมังสาหารถ้าเลี้ยวซ้ายเพื่อมาอ.โขงเจียม ถนนก็ยังมีสภาพเป็นสองเลนเช่นเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน:-)


ผมเอง...PattyCake
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2555 ณ สุรินทร์


"เก็บเล็กผสมน้อย...อีสานใต้"


ทักทายค่ำนี้จาก"โคราชา...เมืองย่าโม" วันนี้เสร็จงานเร็วเพราะระยะเวลาในการเดินทางสั้นกว่าเมื่อวาน เรามาสรุปเส้นทางกันดีกว่าเพื่อคววามสนุกสนานสไตล์"ทำงานไป...เที่ยวไป"

เช้าเมื่อวาน"ออกจากเดินทางจากโขงเจียม - พิพิธภัณฑ์อุบลฯ-ปราสามศรีขรภูมิ-หมู่บ้านช้างสุรินทร์-ผ้าไหมทองสว่าง-โรงแรมมาแจสติคสุรินทร์"

เส้นทางที่ใช้คือ"โขงเจียม-สิรินธร-พิบูลมังสาหาร-วารินชำราบ-กุดปลาขาว-ข้ามเม่น้สถานทีรถไฟ-ศรีสะเกษ-ศรีขรภูมิ-จอมพระ-เข้าทองหลวงสาย214-หมู่บ้านช้างสุรินทร์-วิ่งเส้นในมาหมู่บ้านท่าสว่าง-ผ่านหน้าสถานทีรถไฟสุรินทร์-บขส.สุรินทร์-โรงแรมสุรินทร์มาเจสติค"ถึงโรงแรมประมาณหกโมงเย็น มืดตึ้บ!




(ภาพ) นาคหัวโล้น ปราสาทเมืองต่ำ
 


มื้อเที่ยงวางแผนกิน"ไก่ย่างห้วยทับทัน" แต่ลูกค้าไม่หิว ก็เลยเปลี่ยนมากินก๋วยเตี้ยวร้านดังประจำอ.ศรีขรภูมิ"ซำไถ่" อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ หาไม่ยาก ใครๆก็รู้จักจริงๆ อิอิ



ส่วนเช้าวันนี้"สุรินทร์-อ.ปราสาท-เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข24(ตรงแยกนี้ถ้าขับตรบไปอีกประมาณ 40 กม.ปลายทางคือชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ด่านช่องจอม)-เลียวซ้ายแยกประโคนชัยเพื่อไปประสาทเมืองต่ำ(มีป้ายบอกตลอดทุกทางแยก)-จากเมืองต่ำมาพนมรุ้ง-แยกนางรอง-เลี้ยวขวาวิ่งเส้นลำปลายมาศ-เลี้ยวซ้ายแยกลำปลายมาสเข้าทางหลวงหมายเลข226-ผ่านห้วยแถลง-เลี้ยวขวาเข้าอ.พิมาย(เส้นนี้ถ้าขับตรงไปคือเส้นจักราช ไปสนามบินเมืองโคราช)-ถึงแยกพิมายเส้น
ทางหลวงหมายเลข2เลียวซ้ายไปโคราช-แยกจอหอ-โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส"

มื้อเที่ยงวันนี้วางแผนกินที่ร้าน"ใบเตย" แต่มาถึงพิมายบ่ายสอง ลูกค้าก็ขอทานอะไรง่ายๆ ก็เลยจัดร้านอาหารตามสั่งใกล้อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย สะดวกที่สุด!

หลังจากทานมื้อเที่ยงวันนี้เสร็จลูกค้าบอกว่า"ชอบร้านเมื่อวานมากกว่า!!"

สรุปความยากของเส้นทางเมื่อวานคือ"จากศรีขรภูมิไปหมู่บ้านช้างและผ้าไหมท่าสว่าง" สำหรับวันนี้คือ"จากแยกนางรองมาพิมาย"

ทั้งสองเส้นนี้เคยวิ่งมาแล้ว จำทางได้แต่ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวช่วยที่ดีที่สุดคือ "Garmin GPS" ผู้ช่วยส่วนตัวที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ ^^

ผมเอง...PattyCake
วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส โคราช


ปล.เป็นไกด์ถ้ารู้และจำเส้นทางได้จะดีที่สุด เข้าตำรา"ตนเป็นที่พึงแห่งตน" แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาเหมือนกันนะกว่าจะจำทางได้ ไม่ใช่ง่ายๆเน้อ อาชีพนี้แมร่งต้องใช้ทักษะและความสามารถหลากหลายจริงๆ

"เก็บเล็กผสมน้อย...ร้านซำไถ่ หน้าสถานีรถไฟ เมืองศีขรภูมิ"

แนะนำร้านก๋วยเตี้ยวอร่อยเจ้าดัง...ซำไถ่ หลังจากที่สืบคืนข้อมูลหาร้านอร่อยที่จะทานมื้อเที่ยงที่อ.ศีขรภูมิล่วงหน้าก่อนเดินทางก็มีร้านนี้ละครับที่อยู่ในแผนที่เตรียมเอาไว้

หลังจากที่แวะเที่ยวปราสาทศรีขรภูมิเรียบร้อย ผมก็มีโอกาสสอบถามคนพื้นที่อีกครั้ง"แถวนี้ร้านไหนอร่อย" ก็ได้คำตอบคือร้านซำไถ่นั้นเอง

หาไม่ยาก...ตามมาๆๆ เดี๋ยวจะบอก!

จุดสังเกตง่ายที่สุดคือสถานีรถไฟศีขรภูมิ บริเวณนี้ถ้ามีที่ว่างก็สามารถจอดรถได้เลย หรือถ้าต้องการซื้อขนมทานเล่นเพือรองท้องก็มีร้านสะดวกซื้อและ711บริการ


หมายเหตุ
ภาพแรก : ป้ายชื่อร้าน
ภาพสอง : เส้นหมีแห้ง (ชามแรกหิว ถ่ายไม่ท้น หมดแว้ว!)
ภาพสาม :เดินข้ามรางรถไฟ ร้านอยู่ทางด้านขวามือด้านหน้าถนน
ภาพสี่ : บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟศรีขรภูมิ

หันหน้าไปทางสถานทีรถไฟ ก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนสถานี ผ่านสถานี เดินข้ามรางรถไฟที่ฟากของสถานีรถไฟ ให้สังเกตตึกแรกทางด้านขวามือหลังจากข้ามรางรถไฟ เดินจนไปสุดถนน ร้านก๋วยเตี้ยวอยู่ตึกนี้ละครับทางด้านขวามือของท่าน เดินไม่ไกลหรอกครับ! รับรองอร่อยแน่นอน

ร้านซำไถ่ พี่ๆที่ร้านน่ารัก เป็นกันเอง น้ำซุปรสชาดกำลังดี ลูกชิ้นหมูของแท้เคี้ยวแล้วนุ่ม เครื่องที่ใส่มาในก๋วยเตี้ยวก็อร่อยจริงๆ (ลูกชิ้นหมูและหมูยอที่ร้านทำเอง) มันน่าจะมีอะไรหลายอย่างที่เด็ดๆเอาไว้จะทยอยไปกินเรื่อยๆนะฮะ

วันนั้นผมซัดไปสองชาม"เส้นเล็กต้มยำและเส้นเล็กแห้ง" ส่วนลูกค้าทานเส้นเล็กต้มยำกับผัดไท ที่ร้านนี้มีอย่างอื่นขายนอกจากก๋วยเตี้ยวนะฮะ แต่ก๋วยเตี้ยวมันสวดยอดดดดดดมว๊ากกก!!!



ผมเอง...PattyCake

วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2555


ข้อมูลเพิ่มเติมกว่าจะเป็นร้านซำไถ่เช่นทุกวันนี้...ทุกอย่างต้องใช้เวลาและความอดทนจริงๆ อ่านกันให้ได้นะ ผมอ่านจบแล้วอยากจะกลับไปอีกรอบจริงๆ...สวดยอดดดดด!
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=68932

เก็บเล็กผสมน้อย..ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยที่ศีขรภูมิ

แนะนำ"ร้่านก๋วยเตี๋ยว ซำไถ่" อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ (ขอไปชิมก่อนนะว่าอร่อยจริงเปล่า อิอิ)

เป็นร้านเก่าแก่ของทางอำเภอเลยครับเปิดมาไม่ต่ำกว่า 40 ปีและเป็นร้านก๋วยเตี่ยวที่มีชื่อเสียงมากของศีขรภูมิ ทั้งเส้นบะหมี่ที่ทำเอง ลูกชิ้น หมูหมัก หมูแผ่น ฯลฯ เป็นสูตรเก่าแก่ของทางร้าน ทำเองสดใหม่ทุกวันเลยครับ 


เปิด 09.00 น. - 16.00 น.
ที่ตั้ง : ติดถนนทางไป อ.จอมพระ,รัตนบุรี ถ.สุขาภิบาล 2
อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟศีขรภูมิไปเพียงไม่เกิน ๓๐ เมตร

ปล.หวังว่าร้านยังเปิดบริการอยู่นะฮะ เพราะข้อมูลที่ได้มาก็ไม่บอกสะด้วยสิว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ อิอิ

http://bit.ly/UKCMJ1


วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2555

ผลงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด! ของ AVRIL Lavigne



"Here’s To Never Growing Up"
ผลงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด! ของนักร้องสาวเสียงดีจากแคนาดา AVRIL Lavigne 

เป็นผลงานเพลงใหม่ของเธอในรอบสองปี หลังจากที่เธอผิดหวังจากเพลง Wish you Were Here ในปี2011 ที่ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง อันดับเพลงก็ไม่ดีเท่าที่ควร ได้แค่อันดับ65

เธอคงเซ็งฝุดฝุด ตอนนี้แข็งแรงแล้ว...มาฟังเพลงใหม่ของสาวสวยแคนเนเดี้ยนกันดีกว่า!


วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ข้อมูลโดย :TheSun
เรียบเรียงและเล่าโดย :PattyFromTheBlock 

ฉันสวย ฉันเลิศ...ฉันอ้วน มีไรปะ?


"as FAT as possible...อ้วนที่สุดเท่าที่จะอ้วนได้"

1 สโตน = 6.3 กิโลกรัม
เพราะฉะนั้นน้ำหนัก 16.5 สโตน = 103.95 กิโลกรัม
แต่ถ้าเป็น 30 สโตน = 189 กิโลกรัม 


คำตอบสุดท้ายคือน้ำหนักที่สาวน้อยวัย 23 ปี Tammy Jung ต้องการ เธอบอกว่า"ยิ่งอ้วน ยิ่งสวย ยิ่งอ้วน ยิ่งมีความสุข การกินทำให้เธอมีความสุข"

ทุกๆวันเธอจะกินเพื่อให้น้ำหนักขึ้น นี้คือเป้าหมายสูงสุดในแต่ละวันและเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขเมือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น


เธอเคยผอมมาก่อนนะฮะ ตอนนั้นหนัก 8 สโตนหรือประมาณ 50 กิโลกรัม เคยใส่กางเกงยีนส์แบบพี่ตูน บอดี้สแลม เคยเล่นวอลเลย์บอล เคยออกไปเที่ยวหนุกหนานกับเพื่อน


ปัจจุบันเธอหนักประมาณ 103 กิโลกรัม เป้าหมายของเธออยู่ที่ 190 กิโลกรัม โอ้วแม่เจ้า!

ในรอบหกเดือนจากการกินแหลกตั้งแต่เช้าจนถึงเข้านอนเธอสามารถทำน้ำหนักได้ถึง 18 กก.

เหตุที่เธอหันมากินแหลกเพราะว่าครั้งแรกที่เธอกินๆๆๆ เพื่อทำน้ำหนัก วันหนึ่งเธอไปส่องกระจก "ต้าย! ฉันอ้วนขนาดนี้เลยเหรอ ดีจัง"

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ภาระกิน"กินเพื่ออ้วน"ก็เริ่มต้นขึ้น!

กินเยอะขนาดนี้คุณหมอก็เคยเตือน
"นังหนู! กินอย่างนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ มันเป็นการฆ่าตัวตายผ่อนส่ง เธออาจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เลิกแดรกอย่างนี้เถอะ"

เธอก็รู้ตัวนะว่ามีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์และไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ เธอบอกว่า
"ฉันจะกิน ฉันจะอ้วน มันก็เรื่องของฉัน ไปหนักหัวกะบาลหรือไปทรมานกะเพาะของพวกเขาหรือไง"
"ครอบครัวของหนูเขาก็ไม่ทราบหรอกว่าหนูตั้งใจกินๆๆๆเพื่อให้น้ำหนักขึ้น อย่าไปบอกเขานะ"

ผมว่ากินให้มันพอดีๆ พอเหมาะกับร่างกายดีกว่า อ้วนมากไปจะก้มจะเงยก็ลำบาก เสื้อผ้าก็หาใส่ยาก อีกทั้งโดนเพือนล้ออีก...(T__T)

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและข้อมูล :http://www.thesun.co.uk/sol/homepage/woman/real_life/4921136/Woman-wants-to-be-fattest-fetish-model.html
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง : PattyFromTheBlock



Mariah Carey กับผลงานเอ็มวีเพลงใหม่ Beautiful 

ต้องขอบอกว่า"ในวัย 43 แต่เธอยังดูทรงเสน่ห์และเร่าร้อนไม่เปลี่ยนแปลง" ลีลาการนั่งและขี่มอเตอร์ไชด์กับชุดหนังของเธอช่างดูทรงพลังมาก

ที่ร้อนแรงและเซ็กซี่สุดๆคือลีลาการเต้นยักย้ายส่ายสะโพกในชุดเดรสสีเหลือง"สั้นเสมอหู" ...มันฝุดฝุดจริงๆ

ส่วนเนื้อเพลงและทำนองก็ฟังสบายๆง่ายๆ คิดว่าคงติดหูไม่ยาก ฟังเพลินดีนะฮะ

คลิ๊กฟังกันได้เลย..มีไม่บ่อยนะฮะ เพราะผลงานล่าสุดของเธอย้อนไปปี 2009 ห้ามพลาด!

ขอบคุณ

Dailymail.com

สองคน สองคม ...เดวิด มอยส์ และ อเล๊กซ์ เฟอร์กูสัน

ป๋าเฟอร์กี้และเดวิด มอยส์ ยังคงทำหน้าที่ของตนเองต่อไปสำหรับสองนัดสุดท้ายที่เหลือ ฤดูกาลหน้าคืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง ขอทำหน้าที่วันนี้ของตัวเองให้ดีที่สุด

วันนี้ตอนบ่ายที่ห้องแถลงข่าวของสโมสรเอฟเวอร์ตั้นมีการขอร้องและห้ามนักข่าวถามเดวิด มอยส์เกี่ยวกับตำแหน่งใหม่ที่เขาจะไปเริ่มในฤดูกาลหน้า 

รวมทั้งตัวของเดวิด มอยส์เองก็บอกกับนักข่าวเช่นกันว่า"วันนี้เขายังเป็นผจก.ทีมเอฟเวอร์ตั้น เพราะฉะนั้นขอให้ถามคำถามเกี่ยวกับทีม"

.....มืออาชีพ เขาทำงานกันอย่างนี้เนอะ ปัจจุบันสำคัญกว่าอนาคต....





นอกจากนี้เดวิด มอยส์ถือโอกาสขอบคุณแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนเขาตลอดมา 11 ปี "ถ้าไม่มีแฟนบอล วันนี้คงไม่มีเดวิด มอยส์เช่นกัน"

"วันอาทิตย์นี้เป็นเกมส์นัดสุดท้ายที่ทีมจะได้เล่นในบ้าน คงจะเป็นอีกวันที่เขาจะรู้สึกสะเทือนอารมณ์อย่างที่สุด เพราะบรรยกาศของสนาม แฟนบอลและผู้เล่นทุกคน"

วันอาทิตย์นี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับฟุตบอลอังกฤษ คู่เอฟเวอร์ตั้นเตะ 21.00 / แมนยูเตะ 22.00 

...คนหนึ่งกำลังจะจากไปอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมตำนานให้เล่าขาน อีกคนหนึ่งกำลังจะไปเริ่มต้นภาระกิจใหม่ที่ยิ่งใหญ่...



21.30 น.
วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ขอบคุณภาพ : DailyMailSport
เรียบเรียงและเล่าเรือง : ตบะเสือ ณ ลำน้ำกษัตริย์

สำหรับคนชอบเดินทาง ต้องรุ่นนี้ Volkswagen campervan รุ่น T5 Doubleback


รับรุ่นนี้ไปใช้สักคันไหมครับ? Volkswagen campervan รุ่น T5 Doubleback 


เหมาะสำหรับการเดินทางและค้างแรม 2-4 คนในรูปแบบแค้มป์ปิ้งจริงๆ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครับครัน เตียงนอนแบบพับ โต๊ะทานข้าว ตู้เย็น อ่างล้างหน้าและล้างจาน ไมโครเวพ และชุดทำครัวขนาดเล็ก

ส่วนที่ยืนขยายออกมาจากตัวรถมีปุ่มกด ใช้เวลาไม่เกินนาทีก็จะมีภาพอย่างที่เห็นในรูป อีกทั้งยังมีขาตั้งรองรับด้วยนะฮ้าฟ

ภายในต้วรถ

ส่วนที่ยืดขยายออกมาทำจากวัสดุชั้นดี น้ำหนักเบา สามารถรองร้บน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม แต่เมื่อส่วนขยายยืดมาสุดแล้วจะมีขาตั้งออกมารองรับตัวรถอีกด้วย ทำให้รองรับน้ำหนักได้ถึง 600 กก.

ราคารถแบบมาตรฐาน 54,000 ปอนด์  หรือประมาณ 2,430,000 บาท แต่ถ้าตัวท๊อปรวมตกแต่งทุกอย่าง เช่นทีวีจอแบน เครื่องเล่นดีวีดี เตียงนอนบนหลังคา และหลังคาที่ยืดขึ้นด้านบนให้อารมณ์นอนเต็นท์ ราคาก็ขึ้นไปที่ 70,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3,150,000 บาท

ท่านใดสนใจก็ติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่อังกฤษได้เลยนะฮะ แต่ดูจากราคาแล้วเนี่ยถ้านำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ราคาต้องพุ่งอีกแน่นอนเพราะภาษีนั้นเอง

ส่วนเรื่องพลังงานที่ใช้เขาไม่ได้บอกเอาไว้ว่าต้องติดเครื่องตลอดเวลาหรือเปล่า แต่อากาศที่ฝรั่งยุโรปแอร์คงไม่จำเป็นเท่าเครื่องทำความร้อน แต่ถ้านำเข้ามาขายในเมืองไทยแอร์ต้องฉ่ำนะฮะ

ต่อไปนี้เวลาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่างๆหรือปัญหาที่นอนเต็ม ถ้ามีรถคันนี้ไว้ใช้ก็สบายใจหายห่วง ติดอยู่เรื่องเดียว เวลาจะขี้จะเยี่ยวทำไงวะเนี่ย!


วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและข้อมูล: http://www.dailymail.co.uk/news/article-2322023/Just-vantastic-Head-turning-campervan-opens-reveal-secret-compartment-flick-switch.html
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง : PattyFromTheBlock

"ตู้นอนแบบฝักถั่ว"



"ตู้นอนแบบฝักถั่ว"

ใครที่เดินทางไปสนามบินนานาชติAbu Dhabi ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือที่เรียกว่ายูเออี แล้วไปเจอเจ้าเครื่องนี้ ลองใช้บริการดูนะครับ ค่าบริการชั่วโมงละ 8 ปอนด์ หรือ ประมาณ 360 บาท

ภายในเงียบสงบ หลับสบายแน่นอน พร้อมสิ่งอำนวนความสะดวกคือWiFi internet และ ปลั๊กสำหรับชาร์ตแบตอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์


สภาพภายใน เมื่อเข้านอนมันจะปรับเป็นเบาะแบนราบ หลับสบาย!

ความจริงเจ้าเครื่องนี้เหมาะสำหรับผู้เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง หรือ ผู้ที่รอเครื่องบิน นอนสักงีบกับเจ้าเครืองนี้ก็ช่วยได้เยอะทีเดียว

ปัจจุบันมีอยู่ 10 เครื่อง แต่ทางสนามบินมีแผนจะติดตั้งเจ้าเครื่อง"นอนฝักถั่ว"นี้ 35 เครื่อง เอาไว้บริการนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางที่ต้องการพักผ่อนระหว่างรอเครื่องบิน 

สมแล้วที่เป็นสนามบินระดับโลก...ของไทยที่สุวรรณภูมิจะลองมีไว้บริการบ้างไหม?

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและข้อมูล : http://www.dailymail.co.uk/news/article-2321998/Abu-Dhabi-airport-unveils-cocoon-like-sleep-pods-passengers-nap-private-8-hour.html
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง : PattyFromThrBlock

เรื่องเล่าจากต่างแดน ตอนน้องหมาแต่งาน อิอิ


They may have only been together for a whirlwind eight months, but Sheena and Gethin knew they were meant to be together forever as soon as their eyes met across the crowded dog show.

'they share toys and food and always play together so we know they're meant to be together'

ปฐมบทจุดเริ่มต้นความรักของน้องหมา นำพามาสู่งานแต่งงาน อ่านแล้วหวานเจี๊ยบ

เจ้าของหมา จนท.ผู้ดำเนินการแต่งงาน  และคู่บ่าวสาว
............................................................

รักกันก็ต้องแต่งงานกัน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือหมา เฮ้ย!
คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วคลาดกัน รักแรกพบกับคนฉันใดหมาก็หมือนกัน เฮ้ย!

ถูกต้องแล้วครับ..เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้คืองานแต่งงานของหมาสองตัว ต้องบอกก่อนว่าหมาไม่ได้จัดงานขึ้นมาเอง แต่เจ้าของหมาเป็นคนจัดการให้ทุกสิ่งอย่าง 

เจ้าสาวSheena วัย 6 ปี พันธุ์German Spitz แต่งงานกับ Gethin เจ้าบ่าวที่อายุเพียง 1 ปี พันธุ์Pomeranian ทั้งคู่พบรักกันเมือ 8 เดือนที่แล้วในงานโชว์สุนัข จากการสังเกตของเจ้าของหมาจนนำมาสู่งานแต่งงาน
แขกผู้มาร่วมงานแต่งงาน น่ารักจริงๆ
งานแต่งงานของหมาหรือสุนัข จัดเหมือนคนทุกอย่าง ทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว แขกรักเชิญก็เป็นสนัขหรือหมาเหมือนกัน 

สำคัญที่สุดคือมีการแลกแหวนกันด้วยนะฮะ คริคริ

หลังเสร็จพิธีสาบานตนว่า"เราจะครองรักกันตราบนานเท่านาน"ก็มีงานเลี้ยงฉลองแบบบุฟเฟ่ต์

ค่าใช้จ่ายสำหรับงานพิธีมงคลสมรสของน้องหมาทั้งสองตัวก็ไม่แพงฮะ 505 ปอนด์ หรือ ประมาณ 22,725 บาท แบ่งเป็น
ค่าพิธีการ : 150 ปอนด์
ค่าเค๊ก : 75 ปอนด์ 
ค่าเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย : 80 ปอนด์ 
ค่าดอกไม้ : 50 ปอนด์ 
ค่าอาหารประเภทdog biscuits : 150 ปอนด์

นี้ยังไม่รวมอีกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่สั่งทำเป็นพิเศษ อีก 60 ปอนด์ นะฮะ! ใช้เวลาเบ็ดเสร็จในการตัดเย็บก็ 6 ชั่วโมง

ปิดฉากก่อนจากกันด้วยคำสาบานรักของน้องหมาสองตัว

'I promise to bark when you bark, to run to the door when you do. I will share all my toys, treats, bones and bed with you.'

'As our eight paws become four, I will love you now and forever.'

ไม่รู้จะแปลยังไงให้หวานฉ่ำ...จบแบบนี้ดีกว่าเนอะ น่ารักจุงเบย!

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและข้อมูล : http://bit.ly/10vcphM
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง : PattyFromTheBlock

เรื่องเล่าจากต่างแดน ตอนนางฟ้ามาเรีย





ภาพนอกสนามและดูผ่อนคลายของนักเทนนิสหญิงสาวสวย นางฟ้า"มาเรีย"เราไม่ค่อยเห็นกันสักเท่าไหร่ 

Maria Sharapova นักเทนนิสขวัญใจของใครหลายๆคนทั่วโลกควงแฟนหนุ่ม Grigor Dimitrov นักเทนนิสดาวรุ่ง วัย 21 ปี ชาวบัลกาเรีย มือวางอันดับ28ของโลก

ทั้งคู่เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสรายการ มาดริด โอเพ่น หลังการแข่งขันที่เข้มข้น ช่วงหัวค่ำทั้งคู่ก็แต่งตัวสบายๆ ออกมาเดินควงแขน เดินเล่นในกรุงมาดริด เหมือนคู่รักคนอืนๆเขาทำกัน

"จับมือ ซบไหล่ หอมแก้ม หอมซอกคอและจุมพิต" จูบกันอย่างดูดดื่ม ดูผ่อนคลายดีจุงเบย

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและข้อมูล : http://bit.ly/16jmQYv
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง : PattyFromTheBlock

เรื่องเล่าจากต่างแดน ตอนไปเที่ยวภูเขาไฟกันเถอะ!

"ไปเที่ยวภูเขาไฟกันไหม?"

สถานที่ท่องเที่ยวที่ว่าอยู่ในประเทศอินโดนีเซียครับ 

ฮอตฮิตคือภูเขาไฟโบรโม่(Bromo) อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติBromo Tengger Semeru ตั้งอยู่ที่ชวาตะวันออก ระดับความสูงจากพื้นดินประมาณ 2,329 เมตร 

พื้นที่แห่งนี้ถูกประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี ค.ศ.1919

ทุกๆปีชาวอินโดนีเซียจะเดินเท้าขึ้นไปที่ยอดภูเขาไฟลูกนี้เพื่อโยนสิ่งของสักการะบูชาให้ผีหรือเทพเจ้าหรือสิงศักดิ์สิทธิ์ลงไปในปากปล่องภูเขาไฟ



ภูเขาไฟBromo งามเนอะ

ทำไมต้องโยน? ….เรืองมันมีอยู่ว่า

“กาลครั้งหนึ่งนานโพ้นมาแว้ว มีพระราชาและพระราชินีปกครองเมืองTengger ครองรักกันมานาน แต่ไร้ทายาท ทั้งคู่จนปัญหา หมดหนทาง ไม่รู้จะทำประการใดจึงไปขอความช่วยเหลือ ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากเทพเจ้าแห่งขุนเขา

เทพเจ้ามีความเมตตา ทรงจัดให้ตามทีร้องขอ พรของทั้งคู่จึงสัมฤทธิ์ผล!

เทพเจ้าผู้ใจดีประทานลูกให้สมปรารรถนาสมใจอยาก จำนวน 24 คน แต่มีเงื่อนไขว่า ลูกคนที่25 มีชื่อว่า "Kesuma" ต้องนำมาทำพิธีบูชายัญด้วยการโยนทิ้งปากปล่องภูเขาไฟ!!


ทำไงได้ละครับ! พระราชาและพระราชินีก็ยอมทำตามที่เทพเจ้าร้องขอ ทุกฝ่ายมีความสุข วิน-วินทั้งสองฝ่าย!!”

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เป็นประเพณีที่ทุกๆปี ชาวอินโดนีเซียจะเดินเท้าขึ้นมาที่ปากปล่องภูเขาไฟโบรโม่เพื่อทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่เปลี่ยนจาก"คน"เป็น"ของ"สักการะแทน

การเดินทางไปเที่ยวที่นี้ถ้าเดินเท้าขึ้นไปแบบชาวอินโดนีเซียใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ถ้าขี้เกียจก็ขับรถสิฮะ แป้บเดียวถึง

แต่ก่อนไปเที่ยวที่นี้ กรุณาตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับว่า “ภูเขาไฟ” มันระเบิดหรือเปล่า ...อิอิ



วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2556
ภาพและเข้ามูล http://www.dailymail.co.uk/news/article-2320674/Mount-Bromo-spews-red-smoke.html
เรียบเรียงและเล่าเรื่อง PattyFromTheBlock