8*3= 23 ?

เอี๋ยนหุย ใฝ่ศึกษามีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขอจื้อ

วันหนึ่งเอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า จึงเข้าไปสอบถามดุ จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่งคนขายผ้ากับลูกค้า ได้ยินลูกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า "3*8 ได้ 23 ทำไมท่านจึุงให้ข้าจ่าย 24 เหรียญละ!"

เอี๋ยนหุย จึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้วก็กล่าวว่า "พี่ชาย 3*8 ได้24 จะเป็ฯ 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก"

คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า "ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านัน ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน"

เอี๋ยหุย กล่าวว่า "ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?"
คนซื้อผ้ากล่าวว่า "หากท่านวิจนิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?"
เอี๋ยหุย กล่าวว่า "หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)" ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น

เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุย และกล่าวว่า "3*8 ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอใ้ห้พี่ชายท่านนี้เสีย"
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินัจฉัยของท่่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น ชายผุ้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป

ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่สในใจกลั้บไม่ได้คิดเช่นนั้น
เอี๋ยหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลือะเลือน จังไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป

พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยบเหตุผลว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ
ขงจื้อรู้ว่าเอี๊ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้
ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว
พร้อมกันนนั้นก็ได้กำชับว่า "อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไ้ม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง"

เอี๋ยนหุย คำนับ พร้อมกล่าวว่า "ศิษย์จะจำใส่ใจ" แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง

เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่
จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่กูฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ ที่ว่า "อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผุ้ใดหากไม่ชัดแจ้ง"
เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานานลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดิดออกจากต้นไม้ใหญ่
ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด คำกล่าวของพระอาจารย์ปรโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รุ้สาเหตุ?

เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่จะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!

เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา "อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจง"

เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง

พอฟ้าสาง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้ ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่จะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?"

ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้นและกล่าวว่า "เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่ จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึงเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง"
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ "ท่านอาจารย์คาดการณ์ดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน"

ขงจื้อจึงตักเตือนเอี๋ยนหุยว่า "อาจาย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่าอาจารย์แก่แล้ว ควาิมคิดเลอะเลือน ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว
เธอลองคิดดูสิ อาตารย์บอกว่า 3*8 ได้23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก
หากอาจารย์บอกว่า 3*8 ได้24 เขาแพ้ นั้นหมายถึงชีวิตของคนคนหนึ่ง เธอคิดว่หมวกหรือชีวิตสำคัญละ?"

เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า "ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด"

จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทงไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่ห่างกาย

หมายเหตุ :เรื่องนี้คัดลอกมาจากบทความ"ชกคาดเชือก หน้า 98" มติชนรายสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 18-24 มีนาคม พ.ศ.2554