ผมเชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อเวียงกุมกามกันมาบ้างแล้ว บางคนก็คงมีโอกาสไปเยี่ยมชมโบราณสถานแห่งนี้แล้ว บางคนกำลังวางแผนที่จะไป บางคนอาจจะได้ยินเป็นครั้งแรก บางคนเคยได้ยินแต่ไม่รู้ว่าเวียงกุมกามคืออะไร
เรามาค้นหาคำตอบกันดีกว่าว่า"เวียงกุมกามคืออะไร"
"....มีชื่อเรียกว่า เวียงกุมกาม โดยโปรดให้ขุดคูเวียงทั้งสี่ด้าน ไขน้ำปิงให้ขังไว้ในคูเวียงและตั้งลำเวียกรอบทุกเบื้อง ในพงศาวดารภาคที่ 61 กล่าวว่า ถึงพุทธศักราช 1829 ปีระวายเสด พญามังรายเจ้าก็ยกเอาหมู่รี้พลไปตั้งบ้านเชียงกุ่มกวม แม่น้ำระมิง ตั้งบ้านอยู่ 3 แห่ง แห่งทีหนึ่งชื่อว่าบ้านกลาง แห่งที่สองชื่อว่าบ้านลุ่ม แห่งทีสามชื่อว่าบ้านแห้มแล ถึงยามกลางพรรษาน้ำท่วมฉิบหายมากนัก..."
เวียงกุมกามคืออะไร?
เวียงกุมกาม หรือ
นครเกาะกุมกาม คือเมืองเก่าเมืองหนึ่งที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามังราย ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจัการล้านนาและได้ทรงประทับอยู่ที่นี้ถึง 10 ปี หลังจากนั้นจึงได้สร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมาในชือว่า"นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่"
เวียงกุมกามสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่?
เวียงกุมกามสร้างขึ้นเมื่อปี
พ.ศ.๑๘๒๙ / ค.ศ.1286 ส่วนเชียงใหม่สร้างในปี พ.ศ.๑๘๓๙ /ค.ศ.1296 โว๊ะ! นั้นแสดงว่าเวียงกุมกามเก่ากว่าเชียงใหม่อีกเนอะ
ปัจจุบันเวียงกุมกามตั้งอยู่ที่ไหน?
ปัจจุบันร่องรอยของเวียงกุมกามปรากฏอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีระยะห่างจากเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตรเศษ
|
แผนที่แสดงการเปลี่ยนร่องน้ำของแม่น้ำปิง โดยอ.สรัสวดี อ๋องสกุล |
เมืองโบราณเวียงกุมกามมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
เวียงกุมกามมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 850 เมตร ไปตามแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และกว้างประมาณ 600 เมตร ตัวเมืองยาวไปตาม"ลำน้ำปิงสายเดิม"ที่เคยไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เฮ้ย!ที่บอกว่า"ลำน้ำปิงสายเดิม" แปลว่าอะไร? แล้ว"ล้ำน้ำปิงสายใหม่"คืออะไร?
ในสมัยโบราณเวียงกุมกามจะตั้งอยู่บนฝั่ง
"ทิศตะวันตก หรือ ฝั่งเดียวกับเมืองเชียงใหม่" แต่เนื่องจากกระแสของแม่น้ำปิงเปลี่ยนทิศทาง จึงทำให้เวียงกุมกามเปลี่ยนมาตั้งอยู่ทางฝั่งด้าน
"ตะวันออกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน"
แถมให้อีกนิดจะได้ไม่สงสัยว่าทำไมเวียงกุมกามจึงกลายเป็นเมืองร้าง?
ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงกระแสน้ำคาดว่าน่าจะอยู่ประมาณ"พุทธศตวรรษที่ 23" ซึ่งขณะนั้นบ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงระส่ำระสายเกิดความวุ่นวาย เนื่องจากพม่าเข้ายึดครองและเกิดการสู้รบชิงอำนาจกัน
การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำครั้งนั้น ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมเวียงกุมกามครั้งใหญ่จนเวียงกุมกาม"ล่มสลาย" และวัดวาอารามจมอยู่ใต้ดินทราย จนเป็นเมืองร้างไปในที่สุด
จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า วัดบางวัดในบริเวณเวียงกุมกามที่เคยอยู่ใกล้กับลำน้ำปิงสายเดิมและถูกน้ำท่วมถูกดินทรายทับถมลึกถึง 1.5 - 2 เมตร
|
แผนที่แสดงที่ตั้งโบราณสถานและการหันทิศของโบราณสถานในเวียงกุมกาม |
แล้วเวียงกุมกาม เมืองที่ร้างเพราะน้ำท่วม ค้นพบเมื่อไหร่?
จุดเริ่มต้นของการขุดค้นศึกษาทางโบราณคดีในเวียงกุมกาม เกิดจากชาวบ้านได้ขุดพบ"พระพิมพ์ดินเผา"เป็นจำนวนมาก ในบริเวณ"สนามหญ้าหน้าโรงเรียนวัดช้างค้ำเก่า" ในช่วงต้นปีพ.ศ.2527 /ค.ศ.1984
หลังจากนั้นกรมศิลปากรได้เข้าไปดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีระหว่างปีพ.ศ.2528 - 2532 ซึงจากการสำรวจพบว่ามีโบราณสถานกระจายอยู่ทั้งในเขตเวียงกุมกามและใกล้เคียงรวมจำนวน 25 แห่ง แบ่งเป็น
1.โบราณสถานร้าง 21 แห่ง
2.มีวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ในเขตเวียงกุมกามและใกล้เคียงเพียง 4 วัดคือ วัดช้างค้ำ วัดเสาหิน วัดศรีบุญเรือง และวัดเจดีย์เหลี่ยม เป็นต้น
แล้ววัดหรือซากโบราณสถานในเวียงกุมกามมีหน้าตาเป็นแบบไหน พอจะสันนิษฐานได้ไหม?
จากการขุดค้นทางโบราณคดีและบูรณะแล้วจำนวน 11 แห่ง จะขอพูดถึงสองเรื่องคร่าวๆคือลักษณะเจดีย์และลักษณะของวิหาร
เจดียในเวียงกุมกาม(ที่ขุดค้นแล้ว) จำนวน 18 องค์ สามารถแบ่งตามลักษณะได้ดังนี้คิอ
1.เจดีย์เหลี่ยมหรือเจดีย์สีเหลี่ยม จำนวน 1 องค์
2.เจดีย์ทรงกลมแบบพื้นเมืองเชียงแสนหรือล้านนา จำนวน 1 องค์
3.เจดีย์ทรงปราสาทหรือแบบสี่เหลี่ยมผสมทรงกลม จำนวน 1 องค์
4.เจดีย์ทรงกลมแบบเชียงใหม่ จำนวน 1 องค์
5.เจดีย์แปลเหลี่ยม จำนวน 3 องค์
6.เจดีย์แบบช้างล้อม จำนวน 2 องค์
7.ซากเจดีย์ไม่ทราบรูปร่าง จำนวน 9 องค์
สำหรับลักษณะรูปทรงวิหารของเวียงกุมกามเกือบส่วนมากจะเป็นแบบที่เรียกว่า
"ขื่อม้าต่างไหม"และ"เป็นวิหารโถงหรือวิหารเปิด" รวมถึงการย่อมุมและการลดชั้นของหลังคาวิหาร เขียนอย่างนี้อาจจะงงและนึกภาพไม่ออก ใครเคยไปวัดพระธาตุลำปางหลวงบ้าง? ถ้าเคยไปคงนึกภาพวิหารหลวงด้านหน้าออก แบบนั้นละครับที่เรียกว่า"วิหารโถงหรือวิหารเปิด"
วิหารหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นตัวอย่างของสิ่งที่เอ่ยมาทั้งหมด ทั้งลักษณะของหลังคา การย่อมมุมส่วนของพื้น วิหารเปิดโล่งหรือวิหารโถง ยกเว้นเพดานเพราะทางวัดบูรณะและเปลี่ยนจากเพดานที่เปิดโล่งสามารถเห็นโครงสร้างของหลังคา"ขื่อม้าต่างไหม"เป็นปิดมิดชิด ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น หมดคุณค่ากันพอดี เวงกำ!
แต่ถ้าใครอยากจะเห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไรก็ยังพอมีให้ชม สามารถไปชมที่ได้ที่วิหารวัดพันเตา วิหารวัดต้นแกว๋น วิหารวัดปราสาทและวิหารวัดพระธาตุเสด็จ เป็นต้น
นี้ละครับภาพคร่าวๆ ของเมืองโบราณที่เรียกว่า"เวียงกุมกาม" ขอให้การไปเที่ยวเวียงกุมกามครั้งต่อไปมีความสุขและมีความเข้าใจในโบราณสถานมากขึ้นนะครับ
.....ยินดีที่ได้รับใช้และแบ่งปันความรู้ดีๆให้ทุกคนได้อ่าน....
ขอบคุณภาพและข้อมูลๆดีจาก"หนังสือแผ่นดินล้านนา" อาจารย์สุรพล ดำริห์กุล คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำนักพิมพ์เมืองโบราณ
เวลา 23.30 น.
วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ.2556
ผมเอง...PattyFromTheBlock