บันทึกฐานยุตโต :วันพระใหญ!

7 กค. 2552
**วันพระใหญ่ในหนึ่งเดือนมีสองวันคือวันขึ้น ๑๕ ค๋ำ และแรม ๑๕ ค่ำ และทุกวันพระใหญ่ในช่วงเข้าพรรษาพระทุกรูปในวัดต้องลงฟังสวดปาฏิโมกข์ในโบสถ์เวลา ๑๔.๓๐ น. สำหรับการทำวัตรเย็นก็ต้องงดไป! อาทิเช่นวันนี้ อีกสักครู่ยาวๆก็ต้องลงโบสถ์

**ช่วงบ่ายอาตมาจำวัด(พักผ่อน)ไปหนึ่งชั่วโมงหลังจากฉันเพล บ่ายสองโมงครึ่งได้เวลาลงโบสถ์ทำวัตรเย็น (การสวดมนต์) แต่ก่อนขึ้นโบสถ์วันนี้พระนวกะได้รับธูปคนล่ะดอกเพื่อปลงอาบัติ ( ส่ิงที่เราได้กระทำผิดโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ในทางโลกหมายถึงการขอโทษหรือสารภาพผิด)่ในทางธรรมพระที่อ่อนพรรษากว่าจะปลงอาบัติกับพระที่พรรษามากกว่า บวชก่อนหนึ่งนาทีก็ถือว่ามีพรรษามากกว่า โดยจะมีบทปลงอาบัติในหนังสือมนต์พิธีเป็นภาษาบาลี อันที่จริงการปลงอาบัติสามารถทำได้ทุกวันไม่เฉพาะวันพระใหญ่ หลังจากสวดบททำวัตรเย็นเสร็จก็เป็นการสวดปาติโมกข์เป็นภาษาบาลี ในการสวดพระทุกรูปต้องขึ้นมานั่งรวมกันบริเวณหน้าพระประธาน มีธรรมาสน์ตั้งอยู่ด้านหน้าพระประธาน พระอาจารย์ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์และสวดปาติโมกข์รูปเดียว พระที่เหลือทั้งหมดนั่งพนมมือฟังแต่เพียงอย่างเดียว การสวดใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณสี่สิบนาทีจึงเสร็จพิธี โดยปกติการสวดปาติโมกข์ทำทุกวันพระใหญ่คือขึ้น ๑๕ ค่ำและแรม ๑๕ ค่ำ และในช่วงเข้่าพรรษาเท่านั้น สรุปทั้งสิ้นตลอดพรรษาทั้งหมด ๖ ครั้งด้วยกัน
เมื่อก่อนอาตมาเข้าใจผิดคิดว่าสวดทุกวันในช่วงเข้าพรรษาและพระทุกรูปสวดพร้อมกัน ตอนนี้อาตมาเข้าใจถูกต้องแล้ว โยมคิดดูพระอาจารย์ท่านสวดรูปเดียวม้วนเดียวจบและท่านแทบไม่ได้ดูหนังสือเลย อีกทั้งเป็นภาษาบาลีล้วนๆเบ็ดเสร็จประมาณ ๔๐ นาที บุญแท้ๆที่ได้ฟัง! ( ปาติโมกข์หมายถึงการสวดศีล ๒๒๗ ข้อของพระสงฆ์ พรรษานี้อาตมาก็ต้องเรียนเช่นกันแต่เป็นภาษาไทย!)

**สี่โมงกว่ากลับขึ้นมาพักผ่อนบนห้องชั้นสี่ หลังจากนั้นทั้งลม ทั้งฝนกระหน่ำลงมาไม่ยั้งแบบมือฟ้ามัวดิน พักได้ไม่นานพระอาจารย์นัฐมาบอกว่าเวลา ๑๗.๔๕ ให้ลงไปที่ศาลาที่โยมมาอยู่วัดถือศีล๘กันเพื่อสวดวัตรแปล (สวดบาลีสลับภาษาไทย) ทุ่มกว่าถึงได้ลงจากศาลาเพื่อไปเวียนเทียนรอบโบสถ์สามรอบ เนื่องด้วยฝนตกหนักทำให้ญาติโยมมากันน้อย
สักสองทุ่มกว่าเป็นอันเสร็จกิจวันนี้ ได้อาบน้ำชำระร่างกายแลเพักผ่อน พรุ่งนี้วันเข้าพรรษางดบิณฑบาตร แต่เพลงศาลาฉันรวมเหมือนวันนี้! พระอาจารย์บอกว่าให้ตื่นสักประมาณ ๐๖.๐๐ น. สบายหน่อยได้นอนตื่นสายนิสหนึ่ง!

**แต่เรื่องงดบิณฑบาตรท่านเจ้าอาวาสแจ้งตอนลงโบสถ์เมื่อบ่าย พระบางรูปวันนี้บอกญาติโยมไปว่าวันเข้าพรรษาบิณฑบาตรตามปกติ แต่ท่านเจ้าอาวาสสั่งงด ทำให้พระบางรูปขาดรายได้จากปัจจัยที่โยมจะถวาย! พวกโยมๆคิดต่อเองแล้วกันน่ะ

**วันนี้ตอนเช้าอาตมาตื่นมาตามปกติ เช้าๆตอนตีสี่ครึ่งอากาศเย็นใช้ได้น่ะโยม เสร็จภาระกิจส่วนตัวก็ไปรอด้านล่างเตรียมเดินบิณฑบาตรตามปกติ วันนี้เป็นวันหยุดและเป็นวันพระใหญ่ก่อนเข้าพรรษาญาติโยมออกมาตักบาตรมากกว่าทุกวัน เดินยังไม่ถึงหลังบ้านเลยย่ามเต็มปริ่มไปด้วยอาหาร บาตรปิดไม่ได้ โดยเฉพาะบริเวณตรงข้ามเยืื้องหมู่บ้านอาตมาญาติโยมมาไม่ขาด โดยเฉพาะพนักงาน๗๑๑ ออกมาถวายอาหารแห้งน้ำดื่มเป็นขวดๆ โยมเอ๋ย!ไม่มีมือจะให้หิ้วแล้ว จีวรก็เริ่มคลาย แต่วันนี้อาตมาเน้นฝาบาตรมากจับไว้เกือบตลอดเวลาจะไม่ให้ร่วงอีกแน่นอน ช่วงที่ของล้นมือและย่ามของอาตมาและพระอาจารย์ เราหยุดจัดของนิดหน่อยแล้วพระอาจารย์ก็หันมาบ่นว่า"โทรไปหาเด็กแถวบ้านให้มารับของ แต่ไม่ยอมรับสาย " ได้ยินดังนั้นอาตมาก็ขออนุญาตพระอาจารย์โทรหาโยมน้องให้มารับของบิณทบาตรแถวหลังบ้าน เพียงสิบนาทีจากที่โทรโยมน้องก็มาถึงจุดนัดหมาย โยมเอ๋ย!ค่อยยังชั่วหน่อย ตัวเบาขึ้นเยอ่ะเลย
โดยปกติถ้าเป็นอย่างนี้พระอาจารย์เล๊กจะเรียกแท๊กซี่กลับวัด! โยมต้องเข้าใจน่ะมันไม่ไหวจริงๆ แต่วันนี้วันหยุดได้โยมน้องมาช่วย หลังจากนั้นพระอาจารย์กับอาตมาก็เดินบิณทบาตรต่อ ไปรับบาตรโยมยาย โยมแม่ และโยมๆแถวบ้าน หลังจากนั้นให้โยมน้องขับรถมาส่งที่วัด มาถึงวัดถ่ายเทของและเลือกอาหารเช้าเสร็จก็ขึ้นห้องพักเตรียมฉันเช้าตอน ๐๗.๓๐ ในระหว่างนั้นญาติโยมก็ทยอยมาตักบาตรที่วัดกันเรื่อยๆ เยอ่ะจริงๆโยม! ฉันเรียบร้อยระฆังวัดตีเป็นสัญาณตอน ๐๘.๐๐ เพื่อขึ้นทำวัตรเช้าต่อทันที !
อาหารเช้าไม่ทันย่อย ๑๐.๓๐ ลงศาลาเตรียมฉันเพลต่อเวลา ๑๑.๐๐ โอ้โฮ้! โยมมากันเต็มศาลาสักร้อยคนน่าจะได้ ประเคนอาหารกันเย่อะมากเล่นเอาพระฉันเพลสะเหนื่อยเลยโยม!

เจริญพร! ๒๒.๓๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น