บันทึกฐานยุตโต: เนื่องในวันแม่



๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๒
** เจริญพรโยม เมื่อวานเป็นวันที่ ๑๒ สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ อากาศร้อนช่วงบ่ายงดเรียนแต่มีการบ้าน ทำวัตรเสร็จก็มานั่งพักผ่อนหน้าห้องพูดคุยกับหลวงพี่ท่านอื่นๆตามปกติ รอเวลาที่โยมป้อและโยมแม่ของป้อมาถวายของก่อนเพล อาตมาก็ใช้เวลาช่วงนั้นซ้อมมนต์ที่จะต้องกรวดน้ำและให้พรแต่ซ้อมจนเคลิ้มเกือบหลับไปเหมือนกัน พอถึงเวลาจริงๆบทกรวดน้ำก็ยังท่องจำได้ไม่หมด สุดท้ายเมื่อถึงเวลาจริงๆก็ต้องเปิดหนังสือ หลังถวายของเสร็จก็นั่งคุยกันนิดหน่อยสอบถาม พูดคุยเรื่องทั่วไปหลังจากนั้นโยมทั้งสองก็ลากลับ อาตมาก็กลับขึ้นมาบนห้องเตรียมฉันเพล มื้อนี้โยมป้อถวายก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นสองถุงพร้อมซาละเปาทับหลีและอื่นๆ แน่นอนท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน จำวัดไปสักหน่อยก็ตื่นขึ้นมาเพราะอากาศร้อน สรงน้ำสบายตัวแล้วก็ลงมือทำการบ้านพุทธประวัติสิบข้อ เหลืออีกข้อเดียวก็จะเสร็จ ทันใดนั้นท่านตึ้งที่อยุ่ห้องเบอร์หนึ่งขึ้นมาตามพระใหม่ห้ารูปเดินทางไปวัดมหาธาตุท่าพระจันทร์พร้อมกับพระอาจารย์กาญจน์และพระอาจารย์อีกรูปเพื่อไปสวดมนต์และเจริญภาวนาแก่องค์พระราชินีเนื่องในวันแม่ รถติดนิดหน่อยและถนนบางเส้นรอบสนามหลวงปิดการจราจร เดินทางถึงวัดประมาณห้าโมงเย็นทันเวลาสวดมนต์พอดี ใช้เวลาในการสวดมนต์และนั่งสมาธิทั้งสิ้นประมาณชั่วโมงเศษก็เดินทางกลับ ระหว่างทางก็ผ่านร้านอาหารมากมายทำให้รุ้สึกอยากเหมือนกัน กลับมาถึงวัดประมาณสองทุ่มครึ่งเดินตรงดิ่งขึ้นมาที่ห้องเปิดกระติกน้ำแข็งฉันนมเปรี้ยวไปหนึ่งกล่องตามด้วมกาแฟร้อนผสมโอวัลตินไปหนึ่งแก้วแล้วก็สรงน้ำ สบายตัวและสบายท้อง
เมื่อวานมีพระทั้งสิ้นประมาณสามพันรูปที่เดินทางไปร่วมพิธีที่วัดมหาธาตุถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอีกครั้งของ.อาตมาที่ได้มีส่วนรวมในพิธีที่สำคัญของประเทศเป็นอีกหนึ่งมงคลในชีวิต....สาธุ เปรียบเทียบกับช่วงที่เป็นฆราวาสโอกาสดีๆและสิ่งดีๆอย่างนี้แทบจะไม่ได้ทำ อย่างมากก็เปิดทีวีดูพิธีที่เขาถ่ายทอดสดจากท้องสนามหลวง
เมื่อวานช่วงเช้าเดินบิณฑบาตญาติโยมออกมาตักบาตรกันมากพอสมควร อาหารที่ได้มามากมายพอสมควร ปัจจัยที่โยมๆถวายมาก็มีบ้างเหมือนกันจำไม่ไดแล้วว่าเท่าไหร่แต่อาตมาก็นำใส่ในโบสถ์เรียบร้อยทุกบาททุกสตางค์หลังทำวัตรเช้าเสร็จ อาตมาก็ตั้งใจเอาไว้ว่าเงินทุกบาทที่ญาติโยมถวายมาให้จะถวายวัดหมด มีหลวงพี่ท่านหนึ่งแนะนำให้นำเงินที่ได้มาไปซื้อสังฆทานแล้วนำไปถวายวัดต่างจังหวัดที่ขาดแคลน แต่อาตมากลัวว่าถ้าเก็บเอาไว้นานจำนวนเงินก็จะเพิ่มมากขึ้นจนห้ามใจไม่ไหว อาตมาก็สาธุและขอบคุณหลวงพี่ท่านนั้นไปสำหรับคำแนะนำที่ดีอย่างนั้น
สาธุ
๑๐.๑๙ วัดสุวรรณประสิทธิ์

ปล. เรื่องนี้มาจากพระอาจารย์ตอนอบรมเกี่ยวกับคุณนายชื่อโต วันหนึ่งคุณนายโตอยากจะนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้าน ถึงวันงานพระก็สวดมนต์ก่อนแล้วค่อยฉันเพล หลังจากนั้นพระต้องสวดต่อก่อนจะรับเครื่องสังฆทาน และปัจจัยเป็นอันเสร็จกิจพิธี พระสวดไปรอบแรกคุณนายโตฟังด้วยความปิติ มีความสุขเป็นอย่างมาก พักฉันเพลอาหารที่เตรียมไว้ก็เลิศรสจนพระฉันกันไม่ไหว พระขึ้นสวดอีกรอบ แหม! ถูกใจคุณนายโตจริงๆ เสียงพระที่เทศน์ก็เพราะจับใจ มาถึงบทสวดกรวดน้ำ
" ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปุเรนติ สาคะรัง เอวะเมวะ อิโต ทินนัง...."
เท่านั้นแหละเป็นเรื่องเลย พอคุณนายโตได้ยินคำว่าอีโต( อิโต ) ก็เกิดความไม่พอใจว่าทำไมพระมาด่าเราอย่างนี้ อาหรก็ จัดให้เต็มที่ สังฆทานก็ดี ปัจจัยในซองก็รูปล่ะ ๕๐๐ บาท คุณนายโตโกรธแล้วสิเรียกเอาสังฆทานจากพระพร้อมทั้งปัจจัยคืนหมดเลย
เรื่องนี้ก็เป็นที่เลื่องลือไปหลายวัดเลยและเป็นที่ขยาดไปตามกัน วันหนึ่งคุณนายโตอยากจะนิมนต์พระมาสวดที่บ้านอีกครั้งเพราะยังไม่สบายใจจากคราวที่แล้ว ครั้งนี้คุณนายโตมานิมนต์พระอีกวัดหนึ่งไป พระท่านก็เคยได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อนก็กลัวล่ะสิ กลัวจะโดนคุณนายโตไล่กลับแบบคราวที่แล้ว ถึงวันงานพระที่ได้รับนิมนต์ก็ท่องมนต์กันอย่างเต็มที่เป็นที่ถูกอกถูกใจคุณนายโตเป็นอย่างมาก อาหารก็ประเคนกันเย่อะแยะจนพระฉันกันไม่ไหว มาถึงช่วงสำคัญที่ต้องสวดบทกรวดน้ำพระที่โดนนิมนต์ไปคราวนี้ก็ยังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น " ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง เอวะเมวะ คุณนายโต ทินนัง เปตานัง ..." คุณนายโตได้ยินดังนั้นดีใจเป็นที่สุดตบเข่าฉาดเลย แหม! พระวัดนี้เทศน์ดีจริงๆ ไม่เหมือนพระวัดที่นิมนต์มาคราวที่แล้วแหมมาสวดมาด่าเรา ผลที่สุดคุณนายโตเพิ่มปัจจัยในซองจาก ๕๐๐ เป็น รูปล่ะ ๑๐๐๐ บาท !
เอวังก็มีเพียงประการล่ะฉะนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น