บันทึกฐานยุตโต : การเรียน การศึกษาของพระ



๗ ส.ค. ๒๕๕๒

**เมื่อวานเป็นวันพระใหญ่ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ช่วงเช้าออกเดินบิณฑบาตโยมถวายปัจจัยมาให้ทั้งสิ้น ๔๖๐ บาท เท่าที่จำได้อาตมาใช้เงินจำนวนนี้ซื้อน้ำดื่มขวดใหญ่ไปสองขวด น้ำแข๊งหนึงก้อน และอะไรอีกจำไม่ได้แต่
เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๖๐ บาท ที่เหลืออีกสี่ร้อยบาทอาตมาเอาใส่บาตรเงินใบใหญ่ในโบสถ์ทั้งหมดเป็นค่าน้ำค่าไฟ ที่สำคัญหน้าซองใบหนึ่งเขียนเอาไว้ว่าชำระหนี้สงฆ์ แต่ก็สบายใจขึ้นเมื่อได้นำเงินทั้งหมดชำระหนี้สงฆ์เป็นค่าน้ำค่าไฟไป สาธุ!

**เมื่อวานตอนสายพระอาจารย์กาญจน์เรียกพระใหม่สี่รูปรวมทั้งอาตมาให้ไปขนไม้ที่โยมเขาถวายให้วัด อาตมาแล้วพระอีกสี่รูปก็ห่มคลุมลงมาเรียบร้อยแต่รถยังไม่มา ไปสอบถามพระอาจารย์..ท่านก็บอกว่างั้นให้ไปรอบนห้องก่อนถ้ารถมาพร้อมแล้วจะประกาศให้ทราบอีกที อาตมาถอดเอาจีวรผึงลมและเอนหลังได้นิดหน่อยทางกองคลังก็ประกาศนิมนต์เรียกทันที อาตมาลงไปรูปสุดท้ายแต่ก็ยังไม่พร้อมเลย อีกทั้งจวนได้เวลาสิบโมงเช้าแล้วหมายถึงตอนสิบโมงครึ่งต้องขึ้นไปบนศาลา อาตมาก็เดินกลับขึ้นห้องทันทีไม่ไปขนไม้แล้ว กลับเข้าห้องสรงน้ำเตรียมลงศาลาดีกว่า อาหารที่โยมๆประเคนให้มาก็น่ากินทั้งนั้น พูดง่ายๆคืออิ่มเลยล่ะโยม ระหว่างที่ลุกขึ้นเพื่อเดินกลับขึ้นห้องชายจีวรไปเดินถ้วยแกงเลอะเทอะเลยทำให้อาตมาต้องรีบซักจีวรอย่างรวดเร๊วเพราะบ่ายสองต้องลงทำวัตรและฟังสวดปาติโมกข์ต่อ สักเที่ยงกว่าอาตมาก็รีบจำวัดทันทีไม่อย่างนั้นสวดมนต์และฟังปาติโมกข์ลำบากแน่ๆ

ไม่แน่ใจว่าเคยบอกโยมไปหรือยังว่าสวดปาติโมกข์คืออะไร การสวดปาติโมกข์คือการทวนศีล ๒๒๗ ข้อของพระเป็นภาษาบาลี ผู้สวดมีพระรุปเดียวที่ต้องขึ้นนั่งธรรมมาสน์ พระที่เหลือพนมมือรับฟัง สำหรับพระที่สวดเป็นระดับพระอาจารย์ที่ต้องท่องและสวดคนเดียวเป็นภาษาบาลีโดยใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที หลังจากนั้นท่านเจ้าอาวาสจะพูดคุย หรือ อาจจะมีเรื่องที่ต้องแจ้งให้พระลูกวัดรับทราบ ...จบจากนี้เป็นอันเสร็จพิธีแยกย้ายกลับกุฎิ

**พูดถึงภาษาบาลีทำให้อาตมานึกขึ้นได้ว่าควรจะเขียนเรื่องอะไรต่อไป ในช่วงเวลาเข้าพรรษาเป็นเวลา ๓ เดือน เป็นช่วงเวลาที่พระจะมีเวลาศึกษาเล่าเรียน อย่างพระบวชใหม่หรือนวกะ( ตั้งแต่บวชใหม่จนถึงห้าพรรษา) และเณรจะต้องเรียนนักธรรมตรีทุกรูปไม่มีข้อยกเว้น
ระดับการศึกษาและการเรียนของพระแยกง่ายๆดังนี้น่ะ
๑. นักธรรมดรี โท และเอก ตามลำดับ
๒. ภาษาบาลีเบื้องต้นจนถึงประโยค ๙ เป็นระดับสูงสุด ( ที่เราเรียกว่าเปรียญ ๑ –๙ นั้นเอง )
๓. อภิธรรมตั้งแต่ชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๙
ทุกระดับการศึกษาต้องเรียนและสอบผ่านถึงจะได้เลื่อนไปเรียนในระดับที่สุงขึ้น เบื้องต้นพระใหม่และเณรทุกรุปต้องเรียนนักธรรมตรีและสอบให้ผ่าน ปีถัดไปในช่วงเข้าพรรรษาจึงจะเรียนนักธรรมโทและภาษาบาลีควบสองวิชาเลย
สำหรับพระรูปใดที่สอบไม่ผ่านนักธรรมตรีจะต้องเข้าเรียนใหม่เหมือนเดิมทุกประการ โดยการสอบนักธรรมตรีนั้นไม่มีการจำกัดระยะเวลาว่าจะต้องสอบให้ผ่านภายในกี่ครั้ง สามารถสอบกี่ครั้งก็ได้จนกว่าจะผ่านแต่จะต้องสอบผ่านให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างความกดดันให้ตัวเอง

สำหรับเณรที่เรียนอาจจะมีปัญหานิดหน่อยในเรื่องการอ่านและการเขียนเพราะโดยส่วนมากแล้วจะจบการศึกษาขึ้นต่ำคือประถมศึกษาปีที่ ๖ เณรบางรุปจบแค่เพียงป.๔ เอง แต่ถ้ามีความพยายามก็ไม่ใช่ปัญหาน่ะโยม
จากข้อมุลที่อาตมามีอยุ่ในมือภูมิหลังของผุ้บวชเรียนมาจากภาคอีสานมีมากเป็นอันดับหนึ่ง ภาคเหนืออันดับสอง ภาคกลาง ภาคใต้และภาคตะวันออกเป็นอันดับท้ายๆ เกินกว่าร้อยล่ะ ๙๕ บรรพบุรษและครอบครัวเป็นชาวนา

สาธุ
๒๒.๐๓ วัดสุวรรรประสิทธิ์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น