
บันทึกฐานยุตโต: บาปมรดก
๙ ส.ค. ๒๕๕๒
** เมื่อวันพระใหญ่ที่ผ่านมาหลังจากหลังจากลงโบสถ์สวดมนต์และฟังปาติโมกข์เสร็จก่อนที่เดินขึ้นตึกพระอาจารย์นัฐให้ตามท่านปุ่นและหลวงพ่อแดงลงมาพบที่สำนักงานด้านล่าง ช่วงที่ท่านทั้งสองนั่งอยุ่ในสำนักงานอาตมาแอบมองเข้าไปในห้องสังเกตุเห็นได้ถึงบรรยากาศที่จริงจังและเครียดนิดหน่อย ข้อสงสัยที่มีหลังจากที่ได้พูดคุยและสอบถามเป็นดังนี้คือพระอาจารย์กาญจน์และพระอาจารย์นัฐได้กล่าวตักเตือนเรื่องการรักษาความสะอาดและขยะบนชั้นสี่ เรื่องเสียงที่ดังจากเพลงและเครืองเล่นโทรทัศน์แบบพกพา เรื่องการพูดคุยเสียงดัง เรื่องการลงไปฉันเช้าที่ใต้ศาลาด้านล่าง โดยประเด็นทั้งหมดเป็นการกล่าวฝากท่านทั้งสองมาบอกและเตื่อนพระรูปอื่นๆบนชั้นสี่ว่าให้ช่วยกันรักษาและปฏิบัติตามระเบียบให้ถูกต้อง ถึง ณ ตอนนี้พระทุกท่านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
** วันนี้ช่วงหัวค่ำก่อนจะเริ่มเรียนวิชาวินัยมุขพระอาจารย์กาญจน์เข้ามากล่าวถึงการคัดเลือกประธานรุ่น รองประธานสองรูป เลขานุการ และเหรัญญิกตำแหน่งล่ะหนึ่งรูป โดยพรุ่งนี้ช่วงบ่ายหลังเลือกเรียนวิชาพุทธประวัติจะมีการลงคะแนนเสียงและคัดเลือกกัน ผลจะเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะโยม....
** เรื่องวินัยมุขที่เรียนเมือวานตอนหัวค่ำพระอาจารย์สมบัติได้กล่าวถึงในเรื่องการถวายสังฆทาน โยมทราบไหมว่าสังฆทานที่เราๆปฏิบัติกันอยุ่นั้นไม่ถูกต้องตามวินัยของพระ หมายถึงถังสีเหลือง สีส้มที่โยมๆยกถวายพระนั้นแหละ
สังฆทานนั้นคือของอะไรก็ได้ที่ถวายแก่สงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไป โดยไม่เฉพาะเจาะจง ไม่จำเป็นต้องมาเป็นถัง แต่ถ้าโยมต้องการที่จะถวายทานแบบเฉพาะเจาะจงเรียกว่า “ บุคลิกทาน”
อีกอย่างถ้าโยมต้องการถวายอาหารไม่ว่าจะเป็นของแห้งหรือของคาวสามารถถวายได้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงหรือเพล แต่ถ้าเลยเพลไปแล้วของแห้งที่โยมถวายให้พระ...พระที่รับของไปก็อาบัติทันที บางครั้งโยมไม่ทราบเพราะ
ถวายมาทั้งถังแต่ในถังปรกติก็จะมาอาหารแห้งอยุ่แล้ว ใช่ไหมโยม?
** เรื่องการประเคนอาหารก็เหมือนกันยังมีความเข้าใจผิดและสับสนกันมากพอสมควรระหว่างพระด้วยกันเองและฆราวาส อาทิเช่น การจับโต๊ะประเคนอาหารให้พระ ที่ถูกคือต้องประเคนอาหารให้พระทีละอย่าง ทีละจานไม่ใช่จับขอบโต๊ะประเคน พระบางรูปก็ไม่ทราบก็รับประเคนทั้งโต๊ะเช่นกัน อาบัติต่อพระทั้งโต๊ะทันที
อีกเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันคือเมื่อพระรับประเคนอาหารจากโยมเรียบร้อยแล้ว ถ้าโยมมาจับอาหารที่ประเคนไปแล้วโยมต้องประเคนอาหารนั้นใหม่ให้แก่พระ โยมคิดว่าถูกหรือผิด ที่พระอาจารย์สมบัติท่านอธิบายให้ฟังเป็นดังนี้ อาหารที่โยมประเคนให้พระเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นโยมมาจับอาหารต่างๆที่ประเคนให้เพื่อความเรียบร้อยหรือเพื่อจัดระเบียบ หรือมาถูกต้องอาหารโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ถ้าเป็นดังนี้ไม่จำเป็นต้องประเคนใหม่ ยกเว้นแต่อาหารในถ้วยหมดโยมยกออกไปเพื่อเติมใหม่อันนี้ต้องประเคนอีกรอบ แต่ถ้าโยมเติมอาหารบนโต๊ะนั้นไม่ต้องประเคนใหม่น่ะโยม !
จะเสียการประเคนต้องประกอบไปด้วย
๑. รับประเคนแล้วเปลี่ยนเป็นเพศหญิง
๒. รับประเคนแล้วมรณภาพ
๓. รับประเคนแล้วลาสิกขา
๔. รับประเคนแล้วต้องอาบัติปาราชิก
๕. รับประเคนแล้วให้สามเณรหรือคฤหัสถ์
๖. รับประเคนแล้วให้เขาไปโดยไม่เสียดาย
๗. รับประเคนแล้วถูกแย่งชิงเอาไป
ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราเขาใจแบบผิดกัน บางเรื่องอาตมาก็ได้เขียนบันทึกบอกญาติโยมไปแล้ว สิ่งที่เป็นความเข้าใจผิดเหล่านี้พระอาจารย์ท่านเรียกว่า บาปมรดก
๒๒.๑๒ วัดสุวรรณประสิทธิ์
๙ ส.ค. ๒๕๕๒
** เมื่อวันพระใหญ่ที่ผ่านมาหลังจากหลังจากลงโบสถ์สวดมนต์และฟังปาติโมกข์เสร็จก่อนที่เดินขึ้นตึกพระอาจารย์นัฐให้ตามท่านปุ่นและหลวงพ่อแดงลงมาพบที่สำนักงานด้านล่าง ช่วงที่ท่านทั้งสองนั่งอยุ่ในสำนักงานอาตมาแอบมองเข้าไปในห้องสังเกตุเห็นได้ถึงบรรยากาศที่จริงจังและเครียดนิดหน่อย ข้อสงสัยที่มีหลังจากที่ได้พูดคุยและสอบถามเป็นดังนี้คือพระอาจารย์กาญจน์และพระอาจารย์นัฐได้กล่าวตักเตือนเรื่องการรักษาความสะอาดและขยะบนชั้นสี่ เรื่องเสียงที่ดังจากเพลงและเครืองเล่นโทรทัศน์แบบพกพา เรื่องการพูดคุยเสียงดัง เรื่องการลงไปฉันเช้าที่ใต้ศาลาด้านล่าง โดยประเด็นทั้งหมดเป็นการกล่าวฝากท่านทั้งสองมาบอกและเตื่อนพระรูปอื่นๆบนชั้นสี่ว่าให้ช่วยกันรักษาและปฏิบัติตามระเบียบให้ถูกต้อง ถึง ณ ตอนนี้พระทุกท่านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
** วันนี้ช่วงหัวค่ำก่อนจะเริ่มเรียนวิชาวินัยมุขพระอาจารย์กาญจน์เข้ามากล่าวถึงการคัดเลือกประธานรุ่น รองประธานสองรูป เลขานุการ และเหรัญญิกตำแหน่งล่ะหนึ่งรูป โดยพรุ่งนี้ช่วงบ่ายหลังเลือกเรียนวิชาพุทธประวัติจะมีการลงคะแนนเสียงและคัดเลือกกัน ผลจะเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะโยม....
** เรื่องวินัยมุขที่เรียนเมือวานตอนหัวค่ำพระอาจารย์สมบัติได้กล่าวถึงในเรื่องการถวายสังฆทาน โยมทราบไหมว่าสังฆทานที่เราๆปฏิบัติกันอยุ่นั้นไม่ถูกต้องตามวินัยของพระ หมายถึงถังสีเหลือง สีส้มที่โยมๆยกถวายพระนั้นแหละ
สังฆทานนั้นคือของอะไรก็ได้ที่ถวายแก่สงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไป โดยไม่เฉพาะเจาะจง ไม่จำเป็นต้องมาเป็นถัง แต่ถ้าโยมต้องการที่จะถวายทานแบบเฉพาะเจาะจงเรียกว่า “ บุคลิกทาน”
อีกอย่างถ้าโยมต้องการถวายอาหารไม่ว่าจะเป็นของแห้งหรือของคาวสามารถถวายได้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงหรือเพล แต่ถ้าเลยเพลไปแล้วของแห้งที่โยมถวายให้พระ...พระที่รับของไปก็อาบัติทันที บางครั้งโยมไม่ทราบเพราะ
ถวายมาทั้งถังแต่ในถังปรกติก็จะมาอาหารแห้งอยุ่แล้ว ใช่ไหมโยม?
** เรื่องการประเคนอาหารก็เหมือนกันยังมีความเข้าใจผิดและสับสนกันมากพอสมควรระหว่างพระด้วยกันเองและฆราวาส อาทิเช่น การจับโต๊ะประเคนอาหารให้พระ ที่ถูกคือต้องประเคนอาหารให้พระทีละอย่าง ทีละจานไม่ใช่จับขอบโต๊ะประเคน พระบางรูปก็ไม่ทราบก็รับประเคนทั้งโต๊ะเช่นกัน อาบัติต่อพระทั้งโต๊ะทันที
อีกเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันคือเมื่อพระรับประเคนอาหารจากโยมเรียบร้อยแล้ว ถ้าโยมมาจับอาหารที่ประเคนไปแล้วโยมต้องประเคนอาหารนั้นใหม่ให้แก่พระ โยมคิดว่าถูกหรือผิด ที่พระอาจารย์สมบัติท่านอธิบายให้ฟังเป็นดังนี้ อาหารที่โยมประเคนให้พระเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นโยมมาจับอาหารต่างๆที่ประเคนให้เพื่อความเรียบร้อยหรือเพื่อจัดระเบียบ หรือมาถูกต้องอาหารโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ถ้าเป็นดังนี้ไม่จำเป็นต้องประเคนใหม่ ยกเว้นแต่อาหารในถ้วยหมดโยมยกออกไปเพื่อเติมใหม่อันนี้ต้องประเคนอีกรอบ แต่ถ้าโยมเติมอาหารบนโต๊ะนั้นไม่ต้องประเคนใหม่น่ะโยม !
จะเสียการประเคนต้องประกอบไปด้วย
๑. รับประเคนแล้วเปลี่ยนเป็นเพศหญิง
๒. รับประเคนแล้วมรณภาพ
๓. รับประเคนแล้วลาสิกขา
๔. รับประเคนแล้วต้องอาบัติปาราชิก
๕. รับประเคนแล้วให้สามเณรหรือคฤหัสถ์
๖. รับประเคนแล้วให้เขาไปโดยไม่เสียดาย
๗. รับประเคนแล้วถูกแย่งชิงเอาไป
ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราเขาใจแบบผิดกัน บางเรื่องอาตมาก็ได้เขียนบันทึกบอกญาติโยมไปแล้ว สิ่งที่เป็นความเข้าใจผิดเหล่านี้พระอาจารย์ท่านเรียกว่า บาปมรดก
๒๒.๑๒ วัดสุวรรณประสิทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น