๔ กันยายน ๒๕๕๒
เจริญพร
ช่วงหลังนี้อาตมาไม่ค่อยว่าง เวลามีก็เฉพาะช่วงเช้าก่อนเพลและช่วงค่ำหลังสามทุ่มไปแล้วทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเขียนบันทึกสักเท่าไหร่ อันที่จริงก็มีหลายเรื่องจะเขียนเหมือนกันแต่กลัวว่าญาติโยมจะเบื่อเสียก่อน
วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนสิบ หรือวันที่ ๔ กันยายน ครบรอบสองเดือนที่อาตมาบวชนี่ก็เหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะออกพรรษาแล้วเวลาช่างเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ วันนี้ก็ลงโบสถ์ไปตอนบ่ายสองโมงเพื่อทำวัตรเย็นแล้วก็ต่อด้วยการฟังปาติโมกข์หลังจากนั้นท่านเจ้าอาวาสก็มีเรื่องพูดคุยนิดหน่อยในโบสถ์ก่อนที่แยกย้ายกันกลับกุฏิ มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือท่านเจ้าอาวาสท่านเล่าให้ฟังว่าปีนี้พระทั้งประเทศมีจำนวนประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ รูป และเณรประมาณ ๖๐,๐๐๐ รูป คาดหมายว่าในอีกสี่สิบปีข้างหน้าจะไม่มีพระในประเทศไทย วัดก็จะกลายเป็นอนุสรณ์สถานไป สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะจะมีคนบวชเรียนน้อยลงและระยะเวลาในการบวชก็จะสั้นลงประมาณ ๑๕ วันถึง ๑ เดือน เพราะฉะนั้นพระนวกะที่บวชปีนี้ควรจะตั้งใจเรียนและปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพระธรรมวินัยและการทำวัตรเช้า – เย็น
นอกจากนี้ในโบสถ์พระอาจารย์กาญจน์ยังแจ้งเพิ่มเติมว่าช่วงกลางเดือนกันยายนจะมีการติววิชาที่เรียนในหลักสุตรนักธรรมตรี , วันที่ ๒๔ – ๒๕ กันยายนจะมีการสอบซ้อมที่วัดนวลจันทร์ และระหว่างวันที่ ๒๘ ก.ย. – ๑ ต.ค. สอบสนามจริงที่วัดลาดพร้าว , วันที่ ๔ ต.ค. และวันที่ ๕ ต.ค. ตักบาตรเทโว หมายความว่าตั้งแต่กลางเดือนไปอาตมาคิวเรียนเน้นมากเลยโยม
ขณะที่เขียนบันทึกฝนก็กำลังตกอยู่ด้านนอก คืนนี้อากาศเย็นสบายอีกแล้วโยม ฝนตกทีไรอากาศในห้องเหมือนติดแอร์เลย เช้าทีไรไม่ค่อยอยากตื่นเลยแต่ก็ต้องตื่นเพราะการบิณฑบาตเป็นกิจของสงฆ์ ตื่นสายสุดที่ทำมาคือตีห้า
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเงินที่โยมถวายใส่บาตรอาตมาก็ทำบุญให้ต่อโดยจ่ายเป็นค่าน้ำ – ค่าไฟของวัด อีกส่วนอาตมาเก็บสะสมเงินสองวันพระรวมเงินโยมที่บ้านสมทบทุนมาด้วยเป็นจำนวน ๒,๕๐๐ บาท ใส่ซองร่วมถวายผ้าป่าที่จะนำไปสร้างพระพุทธชินราชจำลอง ณ จังหวัดพัทลุง ช่วงตลอดเดือนกันยายนอาตมาก็อนุโมทนาเงินญาติเพื่อเก็บเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อเข้าปริวาสต่างจังหวัดเป็นเวลาสิบวัน อนึ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอาตมาก็ขอเงินที่บ้านมาใช้ ๑,๐๐๐ บาท สรุปก็คือว่าเงินที่อาตมาได้จากการบิณฑบาตหรือกิจอื่นที่เกี่ยวเนืองอาตมาไม่ได้นำมาใช้เลยแต่ทำบุญต่อให้ญาติโยม
เมื่อสักครู่ขณะที่กำลังนั่งเขียนบันทึกท่านตึ้งห้องเบอร์หนึ่งก็มาเคาะประตูเรียกเพราะว่าท่านสำรวยห้องเบอร์เก้ามีกิจด่วนต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชรคืนนี้ เนื่องด้วยวินัยถ้าพระรูปไหนมีกิจต้องเดินทางและไปค้างคืนต่างจังหวัดต้องนิมนต์พระอีกสี่รูปเพื่อมาฟังท่านสำรวยสวดมนต์คำสัตตาหะสามรอบ เมื่อสวดเสร็จต้องแจ้งให้ทราบว่าจะเดินทางไปไหนและไปกี่วันแต่ต้องไม่เกินเจ็ดวันไม่งั้นขาดพรรษา แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย หวังว่าท่านสำรวยคงทันรถทัวร์รอบสามทุ่ม
สาธุ
๑๙.๓๙ วัดสุวรรณประสิทธิ์ ห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา
ปล.ข้อควรปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระและคฤหัสถ์ที่ควรทราบ
เพื่อที่จะให้คฤหัสถ์ บุรุษ สตรี ทั้งหลายช่วยกันรักษาภิกษุสงฆ์ให้บริสุทธิ์เป็นนาบุญอย่างดี จะได้เพิ่มปริมาณผลแห่งพืชบุญที่บริจาคหว่านลงไปให้มากยิ่งๆขึ้น จึงได้รวบรวมพระวินัยบางข้อที่คฤหัสถ์ทั้งบุรุษและสตรีควรทราบนำมาเรียบเรียงเป็นข้องๆพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติสำหรับคฤหัสถ์ ดังต่อไปนี้
๑. สุภาพสตรี อย่าถูกต้องภิกษุสามเณร ( สังฆาทิเสส ข้อ ๒ )
๒. สุภาพบุรุษ หรือสุภาพสตรี ไม่ควรวานให้พระชักสื่อชายหญิงให้เป็นสามีภรรยากัน แม้ชั่วครั้งชั่วคราว( สังฆาทิเสส ข้อ ๕ )
๓. สุภาพสตรี ไม่มีบุรุษผู้รู้เดียงสาไปด้วย ไม่ควรเข้าไปหาพระในที่ลับตาหรือลับหู เพราะอาจจะทำให้พระถูกโจทด้วยอาบัติต่างๆ หรือเป็นทางให้เกิดความเสียหายมาก ( อนิยต ข้อ ๑-๒ )
๔. สุภาพบุรุษหรือสตรี เมื่อศรัทธาจะถวายเงินทองแก่พระภิกษุหรือสามาเณาต้องให้ให้แก่ไวยาจักร ( ผุ้ที่รับทำกิจของท่าน) และแจ้งให้ท่านทราบ อย่ามองให้ในมือหรือในย่าม หรือในบาตรของท่าน เป็นต้น( จีวรวรรรค ข้อ ๑๐ – โกสิยวรรค ข้อ ๘)
๕. บุรุษผู้เป็นไวยาจักร เมื่อรับทองของพระรูปให้ไว้เท่าไรต้องจัดสิ่งของที่พระต้องการถวายพระรูปนั้น ใน ราคาเท่าเงินทางที่ตนรับไว้นั้น ในเวลาที่ท่านขอ ถ้าเงินทองมากพระขอของน้อย ก็จ่ายเท่าที่ท่านต้องการ เก็บส่วน ที่เหลือไว้จ่ายคราวต่อไป ( จีวรวรรค ข้อ ๑๐ )
เจริญพร
ช่วงหลังนี้อาตมาไม่ค่อยว่าง เวลามีก็เฉพาะช่วงเช้าก่อนเพลและช่วงค่ำหลังสามทุ่มไปแล้วทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเขียนบันทึกสักเท่าไหร่ อันที่จริงก็มีหลายเรื่องจะเขียนเหมือนกันแต่กลัวว่าญาติโยมจะเบื่อเสียก่อน
วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนสิบ หรือวันที่ ๔ กันยายน ครบรอบสองเดือนที่อาตมาบวชนี่ก็เหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะออกพรรษาแล้วเวลาช่างเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ วันนี้ก็ลงโบสถ์ไปตอนบ่ายสองโมงเพื่อทำวัตรเย็นแล้วก็ต่อด้วยการฟังปาติโมกข์หลังจากนั้นท่านเจ้าอาวาสก็มีเรื่องพูดคุยนิดหน่อยในโบสถ์ก่อนที่แยกย้ายกันกลับกุฏิ มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือท่านเจ้าอาวาสท่านเล่าให้ฟังว่าปีนี้พระทั้งประเทศมีจำนวนประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ รูป และเณรประมาณ ๖๐,๐๐๐ รูป คาดหมายว่าในอีกสี่สิบปีข้างหน้าจะไม่มีพระในประเทศไทย วัดก็จะกลายเป็นอนุสรณ์สถานไป สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะจะมีคนบวชเรียนน้อยลงและระยะเวลาในการบวชก็จะสั้นลงประมาณ ๑๕ วันถึง ๑ เดือน เพราะฉะนั้นพระนวกะที่บวชปีนี้ควรจะตั้งใจเรียนและปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพระธรรมวินัยและการทำวัตรเช้า – เย็น
นอกจากนี้ในโบสถ์พระอาจารย์กาญจน์ยังแจ้งเพิ่มเติมว่าช่วงกลางเดือนกันยายนจะมีการติววิชาที่เรียนในหลักสุตรนักธรรมตรี , วันที่ ๒๔ – ๒๕ กันยายนจะมีการสอบซ้อมที่วัดนวลจันทร์ และระหว่างวันที่ ๒๘ ก.ย. – ๑ ต.ค. สอบสนามจริงที่วัดลาดพร้าว , วันที่ ๔ ต.ค. และวันที่ ๕ ต.ค. ตักบาตรเทโว หมายความว่าตั้งแต่กลางเดือนไปอาตมาคิวเรียนเน้นมากเลยโยม
ขณะที่เขียนบันทึกฝนก็กำลังตกอยู่ด้านนอก คืนนี้อากาศเย็นสบายอีกแล้วโยม ฝนตกทีไรอากาศในห้องเหมือนติดแอร์เลย เช้าทีไรไม่ค่อยอยากตื่นเลยแต่ก็ต้องตื่นเพราะการบิณฑบาตเป็นกิจของสงฆ์ ตื่นสายสุดที่ทำมาคือตีห้า
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเงินที่โยมถวายใส่บาตรอาตมาก็ทำบุญให้ต่อโดยจ่ายเป็นค่าน้ำ – ค่าไฟของวัด อีกส่วนอาตมาเก็บสะสมเงินสองวันพระรวมเงินโยมที่บ้านสมทบทุนมาด้วยเป็นจำนวน ๒,๕๐๐ บาท ใส่ซองร่วมถวายผ้าป่าที่จะนำไปสร้างพระพุทธชินราชจำลอง ณ จังหวัดพัทลุง ช่วงตลอดเดือนกันยายนอาตมาก็อนุโมทนาเงินญาติเพื่อเก็บเอาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อเข้าปริวาสต่างจังหวัดเป็นเวลาสิบวัน อนึ่งช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาอาตมาก็ขอเงินที่บ้านมาใช้ ๑,๐๐๐ บาท สรุปก็คือว่าเงินที่อาตมาได้จากการบิณฑบาตหรือกิจอื่นที่เกี่ยวเนืองอาตมาไม่ได้นำมาใช้เลยแต่ทำบุญต่อให้ญาติโยม
เมื่อสักครู่ขณะที่กำลังนั่งเขียนบันทึกท่านตึ้งห้องเบอร์หนึ่งก็มาเคาะประตูเรียกเพราะว่าท่านสำรวยห้องเบอร์เก้ามีกิจด่วนต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชรคืนนี้ เนื่องด้วยวินัยถ้าพระรูปไหนมีกิจต้องเดินทางและไปค้างคืนต่างจังหวัดต้องนิมนต์พระอีกสี่รูปเพื่อมาฟังท่านสำรวยสวดมนต์คำสัตตาหะสามรอบ เมื่อสวดเสร็จต้องแจ้งให้ทราบว่าจะเดินทางไปไหนและไปกี่วันแต่ต้องไม่เกินเจ็ดวันไม่งั้นขาดพรรษา แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย หวังว่าท่านสำรวยคงทันรถทัวร์รอบสามทุ่ม
สาธุ
๑๙.๓๙ วัดสุวรรณประสิทธิ์ ห้องเบอร์สี่ ตึกวิปัสสนา
ปล.ข้อควรปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับพระและคฤหัสถ์ที่ควรทราบ
เพื่อที่จะให้คฤหัสถ์ บุรุษ สตรี ทั้งหลายช่วยกันรักษาภิกษุสงฆ์ให้บริสุทธิ์เป็นนาบุญอย่างดี จะได้เพิ่มปริมาณผลแห่งพืชบุญที่บริจาคหว่านลงไปให้มากยิ่งๆขึ้น จึงได้รวบรวมพระวินัยบางข้อที่คฤหัสถ์ทั้งบุรุษและสตรีควรทราบนำมาเรียบเรียงเป็นข้องๆพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติสำหรับคฤหัสถ์ ดังต่อไปนี้
๑. สุภาพสตรี อย่าถูกต้องภิกษุสามเณร ( สังฆาทิเสส ข้อ ๒ )
๒. สุภาพบุรุษ หรือสุภาพสตรี ไม่ควรวานให้พระชักสื่อชายหญิงให้เป็นสามีภรรยากัน แม้ชั่วครั้งชั่วคราว( สังฆาทิเสส ข้อ ๕ )
๓. สุภาพสตรี ไม่มีบุรุษผู้รู้เดียงสาไปด้วย ไม่ควรเข้าไปหาพระในที่ลับตาหรือลับหู เพราะอาจจะทำให้พระถูกโจทด้วยอาบัติต่างๆ หรือเป็นทางให้เกิดความเสียหายมาก ( อนิยต ข้อ ๑-๒ )
๔. สุภาพบุรุษหรือสตรี เมื่อศรัทธาจะถวายเงินทองแก่พระภิกษุหรือสามาเณาต้องให้ให้แก่ไวยาจักร ( ผุ้ที่รับทำกิจของท่าน) และแจ้งให้ท่านทราบ อย่ามองให้ในมือหรือในย่าม หรือในบาตรของท่าน เป็นต้น( จีวรวรรรค ข้อ ๑๐ – โกสิยวรรค ข้อ ๘)
๕. บุรุษผู้เป็นไวยาจักร เมื่อรับทองของพระรูปให้ไว้เท่าไรต้องจัดสิ่งของที่พระต้องการถวายพระรูปนั้น ใน ราคาเท่าเงินทางที่ตนรับไว้นั้น ในเวลาที่ท่านขอ ถ้าเงินทองมากพระขอของน้อย ก็จ่ายเท่าที่ท่านต้องการ เก็บส่วน ที่เหลือไว้จ่ายคราวต่อไป ( จีวรวรรค ข้อ ๑๐ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น